นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระบุว่า การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสองจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ ก่อนพักร่าง 15 วัน หลังจากนั้นจะกลับมาลงมติในวาระสาม โดยการแก้มาตรา 256 ครั้งนี้มีกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 กำกับไว้ชัดเจนว่า หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องทำประชามติก่อน และการริเริ่มประชามติเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องมีมติให้คณะรัฐมนตรีไปดำเนินการ
ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย พท.จึงยื่นญัตติให้รัฐสภามีมติจัดทำประชามติคำถามที่หนึ่งทันที โดยญัตติได้ส่งถึงประธานรัฐสภาแล้วและบรรจุระเบียบวาระเรียบร้อย โดยตั้งใจให้ลงมติทันทีหลังจบวาระสอง ซึ่งมีพรรคการเมืองอื่นเสนอญัตติในทำนองเดียวกัน
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พท. ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ครม.เคยพูดว่าจะขอมติทำประชามติ แต่เมื่อรับฟังความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าไม่ผูกพันรัฐสภาจึงยกเลิก ทำให้เห็นว่าที่ผ่านมาเป็น "การพูดโดยไม่ศึกษา" จึงมีความจำเป็นที่รัฐสภาต้องเป็นผู้ดำเนินการตามกรอบศาลรัฐธรรมนูญเอง เพื่อให้ประชามติสามารถจัดพร้อมกับวันเลือกตั้งได้
หากร่างแก้รัฐธรรมนูญผ่านวาระสอง และหลังรอ 15 วันผ่านวาระสาม จะสามารถจัดประชามติ "สองคำถามในคราวเดียว" ตามข้อเสนอหลายฝ่าย คือ 1.ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ (คำถามที่หนึ่ง) และ 2.เห็นชอบร่างแก้ไขมาตรา 256 หรือไม่ (คำถามที่สอง)
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พท. ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า พท.ต้องยื่นญัตติครั้งนี้เพื่อให้รัฐสภาเสนอเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการประชามติคำถามที่หนึ่งก่อน โดยไม่จำเป็นต้องรอคำถามที่สอง ซึ่งต้องรอผลวาระสามเท่านั้น การยื่นล่วงหน้าจะเป็น "หลักประกันสำคัญ" หากเกิดเหตุทำให้วาระสามไม่สามารถลงมติได้ตามกำหนด ก็ยังมีประชามติคำถามแรกที่เปิดทางให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดินหน้าต่อ
"หากรัฐสภาส่งความเห็นไปยังนายกฯ ได้ก่อนก็จะเข้าสู่ กกต.ตั้งต้นกระบวนการไว้ล่วงหน้า และเมื่อวาระสามผ่าน ก็จะส่งคำถามที่สองต่อ ทำให้จัดประชามติครบทั้งสองคำถามพร้อมกันได้" นพ.ชลน่าน กล่าว