พรรคประชาชน (ปชน.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ครบทั้ง 500 คน ซึ่งประกอบด้วย ว่าที่ผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ 400 คน และว่าที่ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และหลังจากนี้มีกำหนดจะเปิดตัวนโยบายพรรคที่จะใช้ในการหาเสียงครั้งนี้ในวันที่ 25 ธ.ค. 68 และในวันที่ 27 ธ.ค. จะเปิดระบบรับบริจาค เพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง
พร้อมกันนี้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฯ ยังได้เปิดตัวทีมบริหารในระดับรองนายกรัฐมนตรี 4 คน และช่วงประมาณกลางเดือนม.ค. 69 จะเปิดตัวทีมบริหารแบบเต็มชุด ได้แก่
1. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค ดูแลเรื่องประชาธิปไตยและความมั่นคงใหม่
2. นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตใหม่
3. นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคฝ่ายยุทธศาสตร์ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจใหม่
4. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ดูแลเรื่องการปฏิรูปรัฐบริหารราชการแผ่นดินใหม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน จะไม่ได้ไปคุมกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง การบริหารแบบนี้ เพราะเราดูภารกิจของประเทศ การออกแบบโครงสร้างนี้ได้ เพราะที่มาการเข้าสู่อำนาจของพวกเรามาจากประชาชน ไม่ใช่การต่อรองโควตาทางการเมือง
ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่า จะมีพรรคการเมืองใดนอกจากพรรคประชาชน ที่จะสามารถออกมาประกาศแบบนี้ได้ว่าถ้าวันหนึ่งเราเป็นรัฐบาล เราจะมีโครงสร้างทีมบริหารแบบนี้ เพราะเขาไม่รู้ว่าผลการเลือกตั้ง สมการจะเป็นอย่างไร เขาไม่รู้ว่าหลังเลือกตั้งเขาจะต้องเจรจาหลังบ้านเรื่องโควตาอย่างไร วิธีการทางการเมืองแบบนั้นไม่ใช่วิธีการทำงานการเมืองของพรรคประชาชน ที่เราเชื่อว่า หากพวกเรามาจากประชาชน เราสามารถออกแบบการบริหารราชการแผ่นดินที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริงได้ หนึ่งในปัญหาของรัฐราชการของเรา คือปัญหาการต่างคนต่างทำ แบ่งกระทรวงเป็นไซโล การจะแก้ปัญหานั้นได้ เราจึงออกแบบโครงสร้างทีมบริหารแบบนี้ รองนายกรัฐมนตรี 4 คน คุม 4 ด้านที่สำคัญ
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ที่น่าสนใจ อาทิ น.ส.รักชนก ศรีนอก น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ย้ายจาก สส.เขต มาบัญชีรายชื่อรวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า "วิโรจน์สมัครใจลง สส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 100 เตรียมตัวเป็นฝ่ายบริหารของรัฐบาลพรรคประชาชน"
ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคฯ เปิดเผยว่า นายวิโรจน์ สมัครสส. บัญชีรายชื่อ และยังยืนยันที่จะทำงานร่วมกับพรรคประชาชนต่อไปแน่นอน แต่เป็นในบทบาทอื่นที่ไม่ใช่สส.
นายณัฐพงษ์ กล่าวกับว่าที่ผู้สมัครสส. ว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการเลือกตั้งในรอบ 15 ปีที่ทุกเสียงจะกำหนดหน้าตาของรัฐบาล ไม่ถูกฉุดรั้งไว้ด้วยเสียงของ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรกที่เสียงของประชาชนจะเป็นตัวตัดสินว่า เราจะปล่อยให้การทุจริตคอร์รัปชัน หรือจะทำให้ประเทศนี้โปร่งใสมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลอด 2 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ทุกองคาพยพของอนาคตใหม่ ก้าวไกล และประชาชน เราเอาจริงเอาจังกับการทำงานการเมือง ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 69 ที่จะถึงนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราในฐานะตัวแทนประชาชน สส. ทุกคนจะเป็นกระบอกเสียง อาสามาลงสมัครรับเลือกตั้ง ไปบอกต่อประชาชนทุกคนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมาย อย่าเพิ่งหมดหวังกับการเมืองไทย
"ครั้งนี้เราบอกแล้วว่า เราพร้อมจะเป็นรัฐบาลประชาชนในการพาประเทศไทยไปได้ไกลกว่าเดิม ที่ผ่านมาแม้เราไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่เราทำงานกันอย่างเข้มข้น เราเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ" นายณัฐพงษ์ กล่าวนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ล่าสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดยอดที่ได้รับเงินอุดหนุนพรรคการเมืองกว่า 96 ล้านบาท สูงที่สุดประจำปี 69 ขณะนี้สมาชิกพรรคมีกว่าแสนคน มีจำนวนสาขาใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกลในอดีต ดังนั้น หน้าที่ของทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ คือตามหาหัวคะแนนธรรมชาติให้เจอ เพราะหากเปรียบกันแล้ว มีคนที่ยอมบริจาคเงินจากภาษีมากกว่าจำนวนสมาชิกพรรคเสียอีก
"การเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่เชื่อว่าการที่เราชนะเลือกตั้งไม่ได้เพียงเพราะแกนนำของเราหน้าตาดี นโยบายของเราดีอย่างเดียวไม่พอ ผู้สมัครมีคุณภาพอย่างเดียวไม่ใช่เท่านั้น แต่เรายังมีหัวคะแนนธรรมชาติ ที่ทุกคนพร้อมออกมาซ่อมป้าย เป็นปากเป็นเสียง กลับไปบอกพ่อแม่ในต่างจังหวัด ว่าถ้าไม่กาให้พรรคก้าวไกลตอนนั้น อย่ามาคุยกัน" นายณัฐพงษ์ กล่าวดังนั้น ต้องทำให้เขาเชื่อว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่ารัฐบาลของประชาชนสามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าตามหาพวกเขาเจอเราชนะการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลของพวกเขาได้แน่นอน
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า คือภารกิจตัดสินอนาคตประเทศไทย คำว่า รัฐบาลประชาชน พาประเทศไทยไปได้ไกลกว่าเดิม เราจึงขอประกาศเป็น "ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน และไทยทันโลก" เพื่อทำให้ประเทศไทยไปได้ไกลกว่าเดิม
ทั้งนี้ นอกจากนโยบาย วิสัยทัศน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เราพร้อม และไม่รู้ว่าจะพร้อมมากกว่านี้ได้อย่างไร สิ่งที่เรามีมากกว่าพรรคการเมืองอื่น แน่นอนคือ เขาอาจจะมีหัวคะแนนที่เป็นเงินซื้อ แต่เรามีหัวคะแนนธรรมชาติ ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคทุกคน
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีความพร้อมที่สุด เรามีตัวแทนประชาชน โดยเชื่อมั่นว่า 500 คนในห้องประชุม จะแน่วแน่ในอุดมการณ์วิธีการทำงานอย่างพรรคประชาชน ชัดเจนในการสื่อสารนโยบาย เชื่อมั่นในทีมเพื่อนร่วมพรรค ตั้งแต่ทีมผู้ช่วยหาเสียงจนถึงผู้บริหาร หนักแน่นในการครองตนเป็นแบบอย่างที่ดี
- "ศิริกัญญา" ขอเสียง 250 เสียง หวังแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่าโครงสร้างรองนายกฯ 4 ด้านของพรรค คือการทำงานแบบทีมเวิร์คเราทำงานร่วมกันหมด หลายเรื่องที่เป็นเรื่องความท้าทายในประเทศในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ได้ด้วยกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง หรือประเด็นใดประเด็นหนึ่งอยู่แล้ว อย่างเรื่องสแกมเมอร์ ก็ต้องอาศัยทั้งความร่วมมือฝั่งความมั่นคง ตำรวจ รวมถึงตลาดเงิน ตลาดทุนด้วย ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ที่ดี ที่ได้เห็นตัวคนที่มาบริหารตั้งแต่ต้น
ส่วนถ้าเป็นรัฐบาลจะต้องปรับเปลี่ยนโควตาหรือไม่นั้น คงต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่เราไม่อยากปรับ ดังนั้นช่วยเลือกเราให้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวด้วย เมื่อถามว่า 250 เสียงตอนนี้เพียงพอหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริง ๆ อยากได้ไว้สำรองอีกสักเล็กน้อย เพื่อความมั่นใจ แต่เข้าใจดีว่าเป็นเป้าที่ทะเยอทะยาน แต่พยายามจะไปให้ได้
ส่วนความกังวลเรื่องคดี44 สส. ที่อาจเป็นอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าพรรคได้เตรียมแผนรับความเสี่ยงไว้แล้ว โดยให้ สส.เขตบางส่วนย้ายมาลงบัญชีรายชื่อ เพื่อให้สามารถเลื่อนลำดับขึ้นแทนกันได้หากเกิดกรณีฉุกเฉิน โดยพยายามปิดทุกความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ย้ำแม้จะมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่ต้องไม่ประมาทกับกระบวนการที่ "ไม่ตรงไปตรงมา" ในประเทศนี้
สำหรับข้อครหากระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร สส. ที่มีคนวิจารณ์ว่าเลขาธิการพรรคเผด็จการ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กระบวนการคัดสรรมีคณะกรรมการสรรหาอย่างเป็นระบบ ย่อมมีทั้งผู้สมหวังและผิดหวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ พร้อมระบุว่าการกล่าวหาเลขาธิการพรรคว่าเผด็จการเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและไม่เป็นความจริง
ด้านนายวีระยุทธ กล่าวถึงการเปิดตัวทีมรองนายกฯ ว่า เป็นการเน้นย้ำแนวคิดการทำงานแบบทีม การจะมีฮีโร่มาช่วยประเทศเป็นไปไม่ได้แล้ว คณะรัฐมนตรีมี 36 คน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง รวมถึงสส.บัญชีรายชื่ออีก 100 คน ดังนั้นการสรรหาเราตั้งใจให้คนเห็นได้ว่า แต่ละคนพร้อมเข้ามาทำงานกับเราอย่างไร รวมถึงรัฐมนตรีที่จะเปิดตัวในอนาคตด้วย ย้ำว่า ไม่มีฮีโร่คนไหนที่จะช่วยปัญหาประเทศเรื้อรังแบบนี้ได้ ดังนั้น การจะแก้ปัญหาต้องทำงานร่วมกันหลายจุด โดยมีเป้าหมายและภารกิจร่วมกัน