นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การเตรียมการรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) และการรับแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองมีมติเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี) ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 2-4 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ ขั้นตอนการรับสมัครจะแบ่งออกเป็น 5 จุด โดยจุดที่ 1 ตรวจเช็คเอกสาร จุดที่ 2 จับสลากหมายเลขพรรคการเมืองสำหรับใช้หาเสียงและลงคะแนน จุดที่ 3 ชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัคร จุดที่ 4 ออกใบรับสมัคร และจุดที่ 5 ตรวจรับเอกสารนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง

นายแสวง เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงภาพรวมในวันแรกของการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ ทั้ง 400 เขตว่า ไม่มีเหตุการณ์ใดผิดปกติ การรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี
ส่วนการเตรียมความพร้อมการรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) วันแรกนั้น สำนักงาน กกต.ได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่รับสมัคร และพรรคการเมือง
- โพสต์ใส่ร้ายการเมือง เจอโทษหนัก
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ ถือว่าได้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแบบเต็มตัว และจะมีการออกเสียงประชามติควบคู่ไปด้วย ซึ่งการที่จะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อย ไม่ได้อยู่ที่ กกต.เพียงเท่านั้น แต่อยู่ที่ผู้สมัคร และผู้สนับสนุนด้วย
"ตอนนี้มีการใส่ร้ายทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งผิดกฎหมาย และ กกต.จะเข้มงวดขึ้น เรามีศูนย์ตรวจสอบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น จึงย้ำว่าจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร ผู้สนับสนุน หรือประชาชน จะไปใส่ร้ายไม่ได้ อำนาจของ กกต.คือสามารถลบข้อความที่ใส่ร้ายเหล่านั้นได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้สมัครทุกพรรคการเมือง โดยไม่ต้องรอให้มีผู้มาร้องเรียน
ทั้งนี้ ในส่วนของ กกต.จะมีการตรวจสอบทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ในแต่ละวัน หากพบเห็นข้อความที่เป็นการใส่ร้าย สิ่งที่ กกต.สามารถดำเนินการได้ คือ 1. การคุ้มครองผู้สมัครด้วยการลบข้อความนั้นออก 2.ตามหาต้นตอว่าใครเป็นคนโพสต์ ซึ่งจะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยขณะนี้ กกต. ได้ขอความร่วมมือไปยัง TikTok, Facebook, LINE ให้มาทำความตกลงร่วมกัน ว่าเราจะดำเนินการเรื่องนี้ออกมาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างไร เพื่อทำให้การแข่งขันเป็นธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
"ฝากถึงประชาชนว่า จะโพสต์อะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย จะมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ ขอให้ระมัดระวัง ตามมาตรา 73(5) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ.2561 มีโทษตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของผู้นั้น กำหนด 20 ปี ดังนั้นโทษหนักกว่าการหมิ่นประมาท" เลขาธิการ กกต.ระบุ