พรรคประชาชน ประกาศเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อยใหม่ทันที หลังพบนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ถูกออกหมายจับคดีเอี่ยวฟอกเงิน พร้อมขอโทษประชาชน ยันตรวจประวัติสุดเอื้อมเหตุหมายจับออกหลังตรวจสอบเสร็จ ลั่นไม่ปกป้องพวกพ้อง พร้อมเข้ากระบวนการคัดสรรใหม่ให้ทัน 31 ธ.ค. นี้
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 7.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามตารางการหาเสียงช่วงปีใหม่ของนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย จึงได้ทราบว่าบุญฤทธิ์ถูกออกหมายจับ เนื่องจากมีชื่อในบริษัทที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน
นายพิจารณ์ ยืนยันว่า พรรคจะต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ ซึ่งสามารถทำกระบวนการได้ทันก่อนหมดเขตรับสมัครในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ ส่วนในคดีของบุญฤทธิ์ เจ้าตัวต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามสิทธิ์ ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง "มีส้มไม่มีเทา" ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง โดยพิจารณ์ยืนยันว่าการที่ตำรวจออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นพอสมควร ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามปกติ
ทั้งนี้ ย้ำว่า พรรคประชาชนพยายามออกแบบกระบวนการคัดสรรผู้สมัครให้รัดกุมมากขึ้นทุกการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาด ต้องขอโทษประชาชนอีกครั้งที่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่ "มีส้มไม่มีเทา" ไม่ใช่แค่สโลแกนหาเสียง เราพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าเราไม่อ่อนข้อต่อทุนเทา การทุจริต คอรัปชันใด ๆ ด้วยการจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ในวันที่เราได้รับโอกาสให้เข้าไปบริหารประเทศ ประชาชนจะมั่นใจได้ว่าพรรคจะไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ปกป้องเครือข่ายพวกพ้องที่กระทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
"ผมต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย พรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีของบุญฤทธิ์ ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลยในวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พรรคได้ตรวจประวัติผู้สมัครทุกคนเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคจึงไม่ทราบเรื่อง มาทราบเมื่อเช้าตอนที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้สมัครแล้ว ทันทีที่ทราบเรื่องเมื่อเช้าวันนี้ พรรคก็ได้ดำเนินการแจ้งผู้สมัครและแถลงต่อประชาชนว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรายืนยันว่าไม่มีการปกปิดหรือปกป้องใครทั้งสิ้น" นายพิจารณ์ กล่าวนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่พอเราตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเห็นการกระทำความผิดที่ถึงแม้ในทางกฎหมายจะยังไม่เป็นที่สิ้นสุด แต่เราดำเนินการเลยทันที เพราะเรายึดมั่นในหลักที่ว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรฐานความรับผิดชอบต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย คนที่เป็นนักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบกับประชาชนมากกว่า
นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า มีหมายจับออกวันที่ 17 ธ.ค. และมีการจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว แต่หมายจับออกวันที่ 17 ธ.ค. ทำให้ไม่พบประวัติในระบบ แล้วเรามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนมานานแล้ว และข้อมูลในการรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่ส่งเข้ามาในพรรคไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องตามหมายจับ เช่น การฟอกเงิน เพราะฉะนั้น ถือเป็นส่วนที่เป็นเหตุสุดวิสัย ที่เราไม่ได้เอามาเป็นข้ออ้าง แค่อยากจะกล่าวคำขอโทษ แล้วเราจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นต่อไป
ส่วนจะมีการตรวจสอบผู้สมัครรายอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากเหลือเวลาแค่ 2 วันในการรับสมัคร เพราะฉะนั้น อาจจะไม่ทัน หากจะส่งใครแทนจะต้องเป็นชื่อที่มีความมั่นใจทั้งพรรคและประชาชนมั่นใจได้ว่ามีอุดมการณ์อยู่กับพรรคประชาชน และไม่มีประวัติด่างพร้อยแน่นอน พร้อมระบุว่าไม่ได้กระทบกับแคมเปญ "มีส้มไม่มีเทา"แต่อย่างใด