"ยุทธศักดิ์"ยันกลางสภาหน่วยมั่นคง-ข่าวกรองไม่ได้หย่อนยาน หลังเหตุระเบิด

ข่าวการเมือง Thursday February 16, 2012 13:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดกลางกรุงว่า เรื่องนี้รัฐบาลถือว่ามีความสำคัญเพราะกระทบความมั่นคงและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการในเรื่องของการข่าวและการรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบคนเข้าเมือง และสถานการณ์ต่างๆโดยรอบ กทม.อย่างเข้มข้น

"เหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลไทยถือว่าเป็นการกระทำความผิดส่วนบุคคล และต้องใช้กฎหมายภายในประเทศเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ากระทำมุ่งต่อตัวบุคคลไม่ใช่การก่อการร้าย ในขั้นต้นได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวนขยายผลให้ได้ข้อเท็จจริงมากขึ้นและคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ และไม่เกี่ยวข้องกับนายอาทริส ฮุสเซนหรือเชื่อมโยงเฮซบอลเลาะห์ เพราะเป็นคนละสัญชาติและวัตถุระเบิดก็เป็นคนละชนิด"พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองไม่ได้ทำหน้าที่หย่อนยานแต่อย่างใด เพราะสามารถจับคนร้ายคนที่ 2 ได้ทันเวลาที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึงการประสานงานกับมาเลเซียจับกุมคนร้ายคนที่ 3 ได้

"ทางสมช.และสำนักข่าวกรองแห่งชาติของเราได้เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบและการข่าวมากขึ้นตามสถานการณ์ที่มีความเข้มข้นเพื่อลดภัยคุกคามที่จะเกิดในประเทศของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้" พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญคณะทูตานุทูตและองค์กรระหว่างประเทศมาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวันนี้ถ้าดูจากคำประกาศเตือนภัยก่อการร้ายจะแตกต่างจากเมื่อครั้งที่ผ่านมา เพราะครั้งที่แล้วเป็นการเลี่ยงไม่ให้เข้าประเทศไทย แต่ล่าสุดการประกาศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาเพียงแค่ขอให้มีความระวังและสังเกตสัมภาระต้องสงสัยในที่สาธารณะ พร้อมกับให้รายงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไทยทัน ไม่ใช่คำประกาศเตือนไม่ให้เข้าไทยแต่อย่างใด

"ประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยวคงไปกีดกันไม่ให้คนมาท่องเที่ยวคงลำบาก แต่ได้กำชับไปแล้วว่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องมาประเทศไทยและขอวีซ่าเราจะตรวจละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก"นายสุรพงษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ