In Focusทำความรู้จัก 2 ว่าที่ผู้นำแดนมังกร พร้อมตัวเต็งขุนกระบี่เลือดใหม่

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 14, 2012 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติครั้งที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ณ มหาศาลาประชาชน ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ (พฤหัสบดีที่ 8 ถึงพุธที่ 14 พฤศจิกายน) ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งชาวจีนและชาวโลก เพราะการประชุมครั้งนี้จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นก็คือการแต่งตั้ง “ผู้นำรุ่นที่ 5" มาสืบทอดอำนาจบริหารประเทศที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใครแห่งนี้ต่อจากขุนพลกระบี่ชุดปัจจุบันซึ่งนำโดยประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า

โดยในการประชุมที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ก็เป็นไปตามความคาดหมาย เมื่อ สี จิ้นผิง และ หลี่ เค่อเฉียง ผู้ถูกหมายตาว่าจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของจีนตามลำดับนั้น ได้รับแต่งตั้งกลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ (Central Communist Committee) อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำพาทั้งคู่ไปสู่การดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2556

ทั้งนี้ คณะกรรมการกลางชุดใหม่จะจัดการประชุมนัดแรกในวันพรุ่งนี้ (พฤหัสบดีที่ 15 พ.ย.) เพื่อเลือกคณะกรรมการกรมการเมือง (Political Bureau of Central Commission) หรือที่เรียกกันสั้นๆง่ายๆว่า “โพลิตบูโร" (Politburo) จำนวน 25 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ครองอำนาจเด็ดขาดสูงสุดในการบริหารประเทศ และเป็นผู้ควบคุมนโยบายที่คณะรัฐมนตรีจะนำไปปฏิบัติ

ในจำนวนนี้ จะมีกลุ่มหัวกะทิจำนวน 7 คนที่ได้รับคัดเลือกขึ้นดำรงตำแหน่งคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee) ที่ทรงอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในประเทศจีน โดยจำนวนดังกล่าวลดลงจาก 9 รายในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจที่จำเป็นต่อการผลักดันการปฏิรูปที่สำคัญๆ

เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการถาวรในวันพรุ่งนี้ เราลองมาดูว่าตัวเต็งที่ได้รับการคาดหมายจากสื่อทั้งในประเทศจีนเองและในต่างประเทศมีใครกันบ้าง

  • นายสี จิ้น ผิง (Xi Jinping) อายุ 59 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เขาเป็นชาวฮั่นที่มีพื้นเพมาจากเมืองฟูผิง มณฑลส่านซี จบการศึกษาด้านวิศวกรรมเคมีจาก Tsinghua University มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนในกรุงปักกิ่ง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ เลขาธิการพรรคนครฝูโจว ประธานโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์นครฝูโจว ผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยน เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียง และมหานครเซี่ยงไฮ้ หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองครั้งใหญ่ ก็คาดว่านายสีจะเป็นทายาททางการเมืองของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ใน 3 ตำแหน่งหลักทางการเมืองของจีน อันได้แก่ ประธานาธิบดี เลขาธิการพรรค และประธานคณะกรรมการการทหารกลาง กองทัพปลดแอกประชาชนจีน

นายสี จิ้นผิง มีจุดแข็งในเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่น ซึ่งเห็นเด่นชัดตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคมณฑลเจ้อเจียง การปฏิรูปการเมืองและการเปิดเสรีด้านเศรษฐกิจ นายสีเป็นบุตรชายคนเล็กของนายสี จงซุน ผู้ร่วมก่อตั้งกองกำลังปฏิวัติในมณฑล ส่านซีและอดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยท่านเติ้ง เสี่ยวผิง

สำหรับชีวิตส่วนตัว นายสีแต่งงานครั้งที่สองกับนักร้องสาวสวยชื่อดังนามเผิง ลี่หยวน ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

  • นายหลี่ เค่อเฉียง (Li Keqiang) อายุ 57 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากท่านเหวิน เจียเป่า นายหลี่เป็นชาวฮั่น บรรพบุรุษมาจากเมืองติ้งหยวน มณฑลอันฮุย จบการศึกษาด้านกฎหมายจาก Beijing University และปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคประจำมณฑลเหอหนานที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อมาได้รับมอบหมายให้บริหารมณฑลเหลียวหนิงซึ่งเป็นมณฑลที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดในแถบอีสานจีน

นายหลี่ เค่อเฉียง มีจุดยืนในเรื่องการสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมจีน และนับว่าเป็นคู่คิดและหัวหน้าคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า โดยรับผิดชอบโครงการสำคัญมากมาย อาทิ โครงการ “บ้านเอื้ออาทร" อาหารปลอดภัย พลังงานสะอาด การประกันสุขภาพ และการสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มจำนวนชนชั้นกลางของจีน นอกจากนี้ ยังสนใจในเรื่องการจัดการเศรษฐกิจมหภาค การควบคุมราคาสินค้า และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

นายหลี่มาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ภรรยาของเขาเป็นอาจารย์ด้านภาษาและวรรณคดีอังกฤษที่ Capital University of Economics and Business ในกรุงปักกิ่ง และมีบุตรสาวหนึ่งคนซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกา

  • นายหวัง ฉีซาน (Wang Qishan) อายุ 64 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ การคลัง และพลังงาน เคยใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นภายใต้ระบบเกษตรแบบคอมมูนในยุคปฏิวัติทางวัฒนธรรมของจีน จบการศึกษาจาก Northwest University นครซีอาน และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ เลขาธิการพรรคมณฑลไห่หนาน และผู้บริหารระดับสูงของ Bank of China และ China Construction Bank รวมทั้งนายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่ง จุดแข็งได้แก่ความเป็นมืออาชีพด้านการเงินและการคลังที่มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง คาดว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจมหภาคต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผลงานด้านการสนับสนุนการเปิดเสรีทางการเงินและการปรับโครงสร้างหนี้ของกิจการจีนหลังเหตุการณ์วิกฤติหนี้เสียในปี 2541
  • นายหลิ่ว หยุนชาน (Liu Yunshan) อายุ 65 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประชาสัมพันธ์ จบการศึกษาจาก Central Party School มีประสบการณ์ทำงานในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในถึงราว 20 ปี และไต่เต้าจนก้าวขึ้นเป็นรองเลขาธิการพรรคประจำมองโกเลียใน สร้างชื่อเสียงจากความสามารถในการกำกับควบคุมสื่อและอินเทอร์เน็ตที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในจีน และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของจีนในเวทีระหว่างประเทศ ได้รับแต่งตั้งเป็นโพลิตบูโรต่อเนื่องมา 2 สมัย จึงคาดว่าจะได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการถาวรในคราวนี้
  • นางหลิ่ว เหยียนต่ง (Liu Yandong) อายุ 67 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐ หรือ มุขมนตรี (Councilor) ซึ่งเปรียบเสมือน “ซุปเปอร์รัฐมนตรี" เธอจบการศึกษาด้านเคมีจาก Tsinghua University กรุงปักกิ่ง นางหลิ่วเป็นผู้หญิงคนเดียวในโพลิตบูโรชุดปัจจุบัน และมีสายสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับท่านประธานาธิบดีหู จิ่นเทา รวมทั้งเป็นลูกสาวของอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญหนึ่งของจีน
  • นายหลี่ หยวนเฉา (Li Yuanchao) อายุ 62 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจัดการองค์กร จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านคณิตศาสตร์จาก Fudan University มหาวิทยาลัยชั้นนำของนครเซี่ยงไฮ้ ระดับปริญญาโทด้านการจัดการเศรษฐกิจจาก Beijing University และปริญญาเอกด้านกฎหมายจาก Central Party School นายหลี่ถือเป็นมันสมองและมือทำงานสำคัญให้แก่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา เป็นลูกชายของอดีตรองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ และเคยเป็นสมาชิกขององค์กรยุวชนของพรรคคอมมิวนิสต์ นายหลี่มีจุดเด่นในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการประนีประนอม การปราบปรามคอร์รัปชั่น และการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยภายในพรรคคอมมิวนิสต์ รวมทั้งยังฉายแววในด้านการบริหารจัดการตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคมณฑลเจียงซู โดยปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคกับประชาชน ปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ และใส่ใจในเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้มณฑลเจียงซูได้รับการจัดระดับเป็น “มณฑลก้าวหน้า" จากอันดับที่ 23 ขึ้นเป็นอันดับที่ 5
  • นายวาง หยาง (Wang Yang) อายุ 57 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำมณฑลกวางตุ้ง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองจาก Central Party School และปริญญาโทด้านวิศวกรรมจาก University of Science and Technology เคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์ในระดับท้องถิ่น และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองเลขาธิการพรรคมณฑลอันฮุย ผู้ช่วยรัฐมนตรีในคณะกรรมการด้านการพัฒนาและวางแผนแห่งชาติ (National Development and Reform Commission) รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประจำมหานครฉงชิ่ง ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการสร้างชื่อเสียงและความสนใจของทั่วโลกสู่มหานครฉงชิ่ง สนับสนุนความโปร่งใสในด้านสื่อและการปฏิรูปภาคการเงิน และเนื่องจากเป็นคนที่มีฝีมือ สายสัมพันธ์ดี และอายุที่ยังไม่มาก จึงคาดว่าจะได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการถาวรฯ ถึง 2 สมัย
  • นายจาง เกาลี่ (Zhang Gaoli) อายุ 66 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำนครเทียนจิน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก Xiamen University เคยเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเซินเจิ้น และมณฑลกวางตุ้ง ต่อมาได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการมณฑลชานตง และเลขาธิการพรรคประจำมณฑลชานตง จุดเด่นได้แก่ การเป็นเสมือนมือขวาของอดีตประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน ผู้นำในรุ่นที่ 3 และเป็นผู้ริเริ่มนโยบายการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
  • นายจาง เต๋อเจียง (Zhang Dejiang) อายุ 66 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก Kim Il Sung Comprehensive University มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเกาหลีเหนือ เคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคประจำมณฑลจี๋หลิน เจ้อเจียง และกวางตุ้ง ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกโพลิตบูโรมา 2 สมัยจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการถาวรค่อนข้างสูง และเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2555 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แต่งตั้งให้เขาขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแห่งนครฉงชิ่งแทนนาย โปว ซีไหล ซึ่งทำให้ราศียิ่งจับเพิ่มขึ้นอีก นอกเหนือไปจากการมีผลงานเด่นในหลายมณฑลและความเชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือแล้ว นายจางยังมีจุดเด่นในเรื่องการผลักดันด้านนวัตกรรม และการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของกิจการจีนเพื่อขยายอาณาจักรออกไปสู่เวทีโลก ซึ่งเป็นทิศทางที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้ความสำคัญในปัจจุบันและอนาคต
  • นายหยู เจิ้งเชิง (Yu Zhengsheng) อายุ 67 ปี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคนครเซี่ยงไฮ้นับแต่ปี 2550 จบปริญญาตรีจาก Harbin Military Engineering Institute เคยดำรงตำแหน่งสำคัญเป็นอดีตเลขาธิการพรรคมณฑลหูเป่ย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้าง เป็นลูกเขยของนายพลจาง เจิ้นหวน ประจำกองทัพปลดแอกประชาชนจีน สนับสนุนการเปิดเสรีภาคเอกชนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากอายุที่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ จึงอาจเป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง กล่าวคือ หากไม่ถูกขอให้ก้าวลงจากตำแหน่ง ความอาวุโสก็จะกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายหยูจะได้รับเลือกเช่นกัน

ปี 2555 นับเป็นปีแห่งความท้าทายของเศรษฐกิจและการเมืองจีน ชาวจีนและทั่วโลกต่างรอดูว่าผู้นำรุ่นใหม่เหล่านี้จะสามารถเดินหน้าผลักดันแนวคิดและนโยบายในการบริหารประเทศ พร้อมนำพาจีนผงาดสร้างความยิ่งใหญ่บนเวทีโลกได้ต่อไปหรือไม่


แท็ก In Focus:   มังกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ