นายกฯ มอบโจทย์นักศึกษาวปอ.หาแนวทางสร้างความมั่นคงด้านศก.-สังคม-การเมืองให้ประเทศ

ข่าวการเมือง Thursday November 29, 2012 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรีฝากให้นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.) ช่วยนำปัญหาด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงจากอดีตไปศึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้ได้แนวทางป้องกันและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ แล้วเสนอกลับมาให้รัฐบาลเพื่อนำไปปฏิบัติ

โดยวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดการศึกษาและบรรยายในหัวข้อ "บทบาทของภาครัฐและเอกชนในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ" วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคงในหลายมิติ อาทิ เศรษฐกิจ สังคมการเมืองและภัยคุกคาม รวมไปถึงการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งขณะนี้มีความเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และฝ่ายความมั่นคงจะต้องร่วมมือกัน เช่นเดียวกับปัญหาความแตกแยกทางการเมือง ที่ต้องสร้างความเข้าใจพื้นฐานที่ตรงกัน โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เป็นสาเหตุหนึ่งของความแตกแยก

ส่วนความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจในขณะนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากการเจริญเติบโตและพัฒนาได้เคลื่อนมาเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นไทยจะต้องหาแนวทางเพื่อสร้างความเจริญเติบโต และสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยเรามีการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือจะต้องพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการส่งเสริมด้านการวิจัยตลอดจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ถือว่าเป็นการสร้างงานและรายได้ใหม่ให้กับประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เสถียรภาพทางการเมืองที่มีความมั่นคง มีความสงบ จะเป็นพื้นฐานที่ทำให้เศรษฐกิจมีความเจริญเติบโต เนื่องจากเอกชนมีความมั่นใจ และในส่วนของภาครัฐก็มีการลงทุนในโครงการสำคัญอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีความมั่นคงด้านใหม่ คือความมั่นคงด้านพลังงาน ที่ทุกประเทศรวมถึงไทยมีความต้องการสูงขึ้น จึงต้องวางแนวทางเรื่องของพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก รวมถึงความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ

ขณะที่ความมั่นคงทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จะต้องส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเป็นมิตรกับธรรมชาติ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสิ่งสำคัญคือความมั่นคงด้านทรัพยากรมนุษย์ที่กำลังจะเข้าสู่สังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นประเทศจำเป็นต้องพึ่งพาเยาวชนที่จะต้องทำหน้าที่พัฒนาประเทศต่อไป ดังนั้นภาครัฐจึงมีปัญหาที่จะต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งภาครัฐ เอกชน และแรงงาน ขณะที่ความมั่นคงระดับชาติ ต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก

ส่วนปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยจะต้องคิดร่วมกันว่าทำอย่างไรเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เข้าไปในทุกพื้นที่ หรือแม้แต่การดูแลปัญหาต่างๆ ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน หลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการให้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ไปดูแลและแก้ไขปัญหาการหยุดเรียนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ