นายกฯยกปี 56 เป็นปีปรับสมดุลปท.ทั้งระบบ ให้ทุกฝ่ายคิดบวกหาทางออกปท.

ข่าวการเมือง Sunday January 6, 2013 17:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเรื่อง เหลียวหลัง แลหน้า... มุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ในงานสัมมนาใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ เช่น การปรับค่าแรง 300 บาท โครงการรถยนต์คันแรก ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งระบบ และในปีนี้รัฐบาลจะเน้นการปรับสมดุลประเทศทั้งระบบ

โดยปี 2556 อยากให้เป็นปีของการคิดบวกท่ามกลางการหาทางออกให้ประเทศ เมื่อเหลียวหลังมองไปช่วงรัฐประหารปี 2549 อำนาจที่เคยเป็นของประชาชนได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป พรรคเพื่อไทยจึงอยากเห็นอำนาจนี้กลับคืนสู่ประชาชน ให้มีการถ่วงดุลอำนาจ มีการตรวจสอบกลไกต่างๆ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ทั้งความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ

"วันนี้เศรษฐกิจเริ่มพลิกฟื้นในไตรมาสที่ 3 และ 4 ก็คาดว่าปลายปีนี้ เศรษฐกิจน่าจะโตเฉลี่ย 5.5%" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะยึดหลัก 3 ข้อ คือสร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่าย ขยายโอกาส ต้องสร้างรายได้เพื่อให้เกิดการกระตุ้นหมุนเวียนไม่ใช่การแจกเงิน เช่น โครงการรับจำนำข้าว ค่าแรง 300 บาท คือการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ส่วนนโยบายรถยนต์คันแรก ต้องการให้วงจรของเศรษฐกิจทั้งระบบมีการขับเคลื่อนตั้งแต่การนำเข้า การนำอุปกรณ์ไปผลิต และคุณภาพชีวิตดีขึ้น ด้วยจำนวนรถที่จองในโครงการ 1.2 ล้านคัน ส่งมอบไปแล้ว 35% เศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาแต่ก็ต้องมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน คือการแก้ปัญหาจราจรต้องทำทั้งระบบไม่ได้มองแค่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

สำหรับการลงทุนของภาคเอกชนได้เพิ่มสูงขึ้น กำลังซื้อเริ่มกลับมา ประชาชนเริ่มลืมตาอ้าปากได้และต่อไปจะต้องมีการปรับสมดุลของประเทศหลายอย่างเช่น สมดุลเศรษฐกิจ เห็นได้ว่าตัวเลขการว่างงานไม่สูงมากส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจบใหม่ ที่ไม่ใช่พวกสายอาชีวะที่ตลาดแรงงานต้องการแต่ขาดแคลน

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการปรับสมดุลเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ประเทศ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการวางโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อหาทางออกให้ประเทศเพื่อจะได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกันปรับปรุงระเบียบต่างๆ ให้นโยบายต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น คิดว่าทุกเสาหลักต่างต้องทำงานกันแต่ต้องมีการถ่วงดุลกัน และรัฐบาลเป็นกลไกหนึ่งที่จะสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการฟังความเห็นจากประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ