เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.:เอแบคโพลล์โค้ง4"พงศพัศ"คะแนนนิยมทิ้งห่าง"สุขุมพันธุ์"

ข่าวการเมือง Tuesday February 19, 2013 11:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เอแบคโพลล์ เผยผลวิจัยเชิงสำรวจชี้แนวโน้มของจำนวนประชาชนที่ตั้งใจจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 3 มี.ค.56 มีเพิ่มสูงขึ้น และส่วนใหญ่ระบุตั้งใจจะไปลงคะแนนเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มากสุด โดยเริ่มทิ้งห่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร คู่แข่งคนสำคัญ

โดยคนส่วนใหญ่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร และหากพิจารณาเป็นจุดของค่าคะแนน(Estimated Points) ที่ค้นพบจะเห็นได้ว่า ความตั้งใจของประชาชนที่ถูกศึกษาระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 43.9 ในโค้งที่ 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 46.6 ในโค้งที่ 4 ขณะที่แนวโน้มความตั้งใจของประชาชนที่ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ลดลงจากร้อยละ 37.6 ในโค้งที่ 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 29.9 ในโค้งที่ 4 และแนวโน้มความตั้งใจของประชาชนที่ระบุ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ร้อยละ 10.4 ในโค้งที่ 3 และยังคงอยู่ที่ร้อยละ 10.5 ในการสำรวจครั้งล่าสุด

"ผลสำรวจครั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ มีคะแนนสนับสนุนจากประชาชนคนกรุงเทพมหานครทิ้งห่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกไปอีกแบบก้าวกระโดดจาก 6 จุดในการสำรวจครั้งที่สามเป็น 16.7 จุด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าศึกษาวิจัยในวิชารัฐศาสตร์และระเบียบวิธีวิจัยต่อไปว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่มีผลต่อความนิยมของประชาชนต่อผู้สมัครเพราะฐานสนับสนุนของประชาชนต่อ พล.ต.อ.พงศพัศ เพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 2.7 จุดเท่านั้น แต่กลับส่งผลทำให้มีคะแนนทิ้งห่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกไปถึง 16.7 จุดเลยทีเดียว ซึ่งเป็นไปได้หรือไม่ว่า การขึ้นเวทีปราศรัยด้วยถ้อยคำที่ประชาชนคาดไม่ถึงว่าจะใช้ถ้อยคำที่ขัดต่อบุคลิกภาพเรื่องความสุภาพและขัดต่อความคาดหวังของประชาชนที่เคยสนับสนุนในอดีต นอกจากนี้ยิ่งมีข่าวออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์จะออกยุทธศาสตร์รื้อฟื้นความทรงจำของประชาชนเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ที่เป็นภาพความขัดแย้งรุนแรงแตกแยกของคนในชาติออกมาหวังตีคะแนนนิยมผู้สมัครคนอื่นอีก น่าจะส่งผลเสียต่อผู้สมัครของพรรคได้เพราะประชาชนส่วนใหญ่เบื่อความขัดแย้งรุนแรงแต่อยากเห็นบ้านเมืองสงบร่มเย็นมากกว่า" นายนพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าว

ประชาชนที่ถูกศึกษาครั้งนี้ร้อยละ 82.1 ระบุนโยบายต่างๆ ของกลุ่มผู้สมัครที่นำเสนอต่อสาธารณชนมีความเหมาะสมแล้ว และแนวโน้มของจำนวนประชาชนที่ตั้งใจจะใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 50.6 ในโค้งที่ 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 59.7 ในการสำรวจโค้งที่ 4

และเมื่อวิเคราะห์ความตั้งใจของประชาชนที่จะเลือกผู้สมัครจำแนกออกตามเพศยังพบว่า ในกลุ่มตัวอย่างเพศชายร้อยละ 47.6 ระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ ร้อยละ 29.7 ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และที่เหลือระบุผู้สมัครคนอื่นๆ และผลสำรวจยังพบว่าในกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงร้อยละ 45.8 ระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ ร้อยละ 30.1 ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์

แต่เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า ในกลุ่มตัวอย่างที่สูงกว่าปริญญาตรีร้อยละ 34.0 ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ร้อยละ 25.5 ระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ และร้อยละ 14.9 ระบุ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างต่ำกว่าปริญญาตรีร้อยละ 49.8 ระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ ร้อยละ 27.7 ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และร้อยละ 9.8 ระบุ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ส่วนกลุ่มตัวอย่างปริญญาตรีร้อยละ 40.2 ระบุ พล.ต.อ.พงศพัศ ร้อยละ 34.9 ระบุ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และร้อยละ 11.9 ระบุ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

"ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.น่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2552...และถ้ามีประชาชนออกไปใช้สิทธิจำนวนมากตามผลสำรวจครั้งนี้น่าจะประมาณการได้ว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะได้คะแนนเกินกว่า 1 ล้านคะแนน" นายนพดล กล่าว

ผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผู้สมัครทุกคนคงต้องรู้จักเก็บอาการ ไม่ประมาท มีความอ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพ เคารพทุกความรู้สึกและการตัดสินใจของประชาชนเพราะทุกอย่างจะชี้ขาดในวันที่ 3 มี.ค.นี้ เพราะคนกรุงเทพฯ อยู่ใกล้กับศูนย์รวมของข้อมูลข่าวสารระดับชาติจึงค่อนข้างเปลี่ยนใจได้รวดเร็ว

"ยังมีเวลาอีกว่าสิบวันอะไรๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้กับความนิยมของสาธารณชนต่อผู้สมัครทุกคน" นายนพดล กล่าว

ทั้งนี้ เอแบคโพลล์ ได้ทำวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง ศึกษาเปรียบเทียบความตั้งใจจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่โค้งที่ 1 ถึงโค้งที่ 4 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้น 2,498 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-18 ก.พ.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ