พร้อมระบุว่า ขอเรียนพี่น้องคนไทยให้ทราบความจริงว่า แถลงการณ์ร่วมสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่นาย ชวนนท์ กล่าวพาดพิงนั้น รัฐบาลในอดีตทำเพื่อปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทีมกฎหมายไทยชุดปัจจุบัน ทั้งนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และศาสตราจารย์ เปลเล่ต์ หนึ่งในทีมทนายความฝ่ายไทยก็ได้แถลงว่าในปี 2550 กัมพูชานำทั้งตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรไปขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่ไทยคัดค้าน จนทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เฉพาะส่วนที่เป็นตัวปราสาทเท่านั้น แต่ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อน
"รัฐบาลสมัคร ได้ปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อนไว้ และนี่คือแนวทางของคำแถลงการณ์ร่วม ซึ่งทีมกฎหมายไทยชุดปัจจุบันก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี แปลกใจที่ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดบ้าง แต่พอทนายกัมพูชาใส่ร้ายรัฐบาลไทยในอดีตที่เป็นฝ่ายตรงข้าม กลับนำเรื่องนี้มาดิสเครดิตกัน" นายนพดล กล่าว