(เพิ่มเติม) นายกฯ เลื่อนกำหนดเยือนสิงคโปร์ไปต้นปี 57 เพื่อร่วมศึกซักฟอก

ข่าวการเมือง Friday November 22, 2013 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตัดสินใจเลื่อนกำหนดเดินทางเยือนสิงคโปร์ในสัปดาห์หน้าออกไปเป็นช่วงต้นเดือน ม.ค.57 เนื่องจากติดภารกิจที่จะต้องชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรที่คาดว่าจะเริ่มในช่วงบ่ายของวันที่ 26 พ.ย.หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยจะมีการอภิปราย 2 วัน คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนเที่ยงคืนวันที่ 27 พ.ย.เพื่อให้มีการลงมติในวันที่ 28 พ.ย.

ส่วนการประชุม ครม.สัญจรที่จ.สงขลา ในช่วงวันที่ 29-30 พ.ย.นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนด และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเตรียมการ

ขณะที่ในช่วงเดือนธ.ค.นายกรัฐมนตรี มีภารกิจร่วมงานพระราชพิธี และการเดินทางเยือนต่างประเทศ โดยในวันที่ 3 ธ.ค.จะเข้าร่วมซักซ้อมพิธีสวนสนามที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น วันที่ 5 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระราชวังไกลกังวล และวันที่ 7 ธ.ค. ร่วมงานสโมสรสันนิบาต ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้น วันที่ 8-9 ธ.ค.เดินทางเยือนรัสเซีย, วันที่ 10 ธ.ค. ในช่วงบ่ายจะเดินทางไปเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่ จ.เชียงราย พร้อมรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ต่อมาเช้าวันที่ 11 ธ.ค. และจะไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เมืองเนปิดอร์ สหภาพเมือนมาร์

นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 12-15 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมการประชุม ASEAN—Japan Summit และ Mekong — Japan Summit ที่ญี่ปุ่น และวันที่ 17 ธ.ค. ร่วมงานวงโยธวาทิตที่กระทรวงกลาโหมเป็นเจ้าภาพ, วันที่ 21 ธ.ค. ร่วมงานเที่ยวบินมหากุศลกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช จากนั้นจะเดินทางไปยัง อ.บ่อฝ้าย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมงานพลุเฉลิมพระเกียรติในเวลา 21.00 น.

ทั้งนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือรวบรวมภารกิจการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ในช่วง 2 ปี รวม 36 ประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะถึงความจำเป็นในการเดินทางเยือนต่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการเสริมสร้างความมั่นใจว่าไทยได้กลับคืนสู่วิธีทางตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมเสริมสร้างบทบาทของไทยในเวทีต่างประเทศ และการพัฒนาเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ