สำหรับอีกกรณีหนึ่งที่ปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบรถ ภาพดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง แต่การกระทำนั้นเป็นการกระทำภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็น เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบุกรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอาจจะเกินเลยไปบ้าง เพราะสถานการณ์บังคับจึงจำเป็นต้องมีการตอบโต้ แต่ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สถานการณ์เป็นไปโดยความสงบเรียบร้อย คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลักยึดหลักของกฏหมายเป็นสำคัญ อย่างชอบธรรม
ด้านพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับมอบหมายภารกิจให้ดูแลคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อให้มีการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนที่จะขัดขว้างไม่ให้เกิดการรับสมัคร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง และตัวแทนพรรคการเมืองให้สามารถจับสลากหมายเลขเพื่อใช้หาเสียงในการเลือกตั้งได้จำนวน 38 พรรค พร้อมยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้ความรุนแรง เพียงแต่ต้องการรักษาพื้นที่ โดยใช้เพียงโล่ กระบอง และกระสุนยางในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา(สบ.10) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบวิถีกระสุนที่ยิง ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.ตลาดพลู พบหัวกระสุน .32 ซึ่งเป็นกระสุนที่ยิงด.ต.ณรงค์ จากวิถีกระสุนเป็นการยิงจากภายนอกรั้วประตู 3 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
ส่วนวิถีกระสุนที่ยิงนายวสุ สุฉันทบุตร ผู้ชุมนุม กปปส. พบหัวกระสุนขนาด 9 มม. ซึ่งจะทำการตรวจหาดีเอ็นเอพิสูจน์หลักฐานต่อไป พร้อมกล่าวยืนยันว่า ชายชุดดำบนตึกกระทรวงแรงงานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่ผู้ยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เพราะมีเหลี่ยมตึกสูงต่างๆบังไว้ และจากการตรวจสอบวิถีกระสุนไม่ใช่ทิศทางการยิงผู้เสียชีวิต