(เพิ่มเติม) ป.ป.ช.เผยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใน ครม."ยิ่งลักษณ์"ช่วง ม.ค.-มี.ค.57

ข่าวการเมือง Thursday January 9, 2014 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวบุคคลหนึ่งบุคคลใดในคณะรัฐมนตรีในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.57 พร้อมระบุว่า มีคดีร้องเรียนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในช่วงยังคงตำรงตำแหน่งทั้งหมด 45 เรื่อง ตกไป 13 เรื่อง อยู่ในขั้นตอนไต่สวนข้อเท็จจริง 14 เรื่อง และอยู่ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริง 18 เรื่อง

นายวิชา กล่าวถึงการไต่สวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่มีการร้องเรียนและยื่นถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า คาดว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวภายในเดือนม.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เคยออกมาตรการและมีการตรวจสอบโครงการนี้ พร้อมทั้งเสนอความเห็นไปยังรัฐบาลเพื่อให้ยับยั้งโครงการนี้หลายครั้ง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ยุติโครงการจนนำไปสู่การทุจริตในทุกระดับ ซึ่งเรื่องนี้มีการร้องเรียนตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ข้าราชการและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ด้วย

ส่วนการไต่สวนการทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งการไต่สวนและมีการลงนามวานนี้ และได้แจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้วว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ซึ่งคณะกรรมการ ปปช.จะยึดแนวทางการไตร่สวน จากคำวินิจของศาลปกครองส่วนหนึ่ง แต่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.สามารถไต่สวนล่วงหน้าได้

นอกจากนี้ นายวิชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี คดีการสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 ว่า มีผู้ยื่นเรื่องเข้ามาทั้งหมด 10 เรื่อง ซึ่ง ป.ป.ช.ได้รวมเป็นเรื่องเดียว โดย ป.ป.ช.ได้ชี้แจงเหตุที่ล่าช้าว่า เนื่องจากต้องรอการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และที่ผ่านมาได้เรียกบุคคลที่อยู่ใน ศอฉ.มาให้ข้อมูลว่ามีการออกคำสั่งลักษณะดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะเรียกพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาให้ข้อมูลกรณีการตอบกระทู้ถามสดในสภาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณในการกระชับพื้นที่เมื่อปี 53 ด้วย ซึ่งคาดว่าการไต่สวนจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรก หรือช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.นี้ และจะเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป

ด้านคดีการทุจริตการจัดจ้างก่อสร้างอาคารที่พักและสถานีตำรวจจำนวน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ยื่นคำร้องเอาผิดนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กรณีการจัดจ้างโดยมิชอบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที้ลงพื้นที่สุ่มตรวจตามจังหวัดต่างๆเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร

ขณะที่ความคืบหน้าคดีรถหรูเลี่ยงภาษี ที่ดีเอสไอ ส่งให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้นมีทั้งหมด 8,000 คัน ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการบันทึกข้อมูลคดีดังกล่าวแล้ว เช่นเดียวกับคดีที่มีผู้ร้องการจัดซื้อ รถจักรยานยนต์ไทเกอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาได้ภายในเดือนนี้ โดยเรื่องนี้ผู้ถูกร้องเป็นนายตำรวจระดับนายพล รวมถึง ผบก.กองพลาธิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

นายภักดี โพธิศิริ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า ปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตเปลี่ยนแปลงไปและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นซึ่งยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจะเน้น 5 ด้านคือ การปลูกจิตสำนึกต้านการทุจริตทุกภาคส่วน,บูรณาการการทำงาน,พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ,พัฒนาเครื่องมือการป้องกัน,สร้างองค์ความรู้ให้กับบุคลากร ประชาชน ซึ่งเป้าหมายคือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ