เนื่องจากขณะนี้ผลปาล์มสดได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัม(กก.)ละ 3.50 บาท มาเป็นกก.ละ 5.50-6.20 บาท เพราะเป็นช่วงปลายฤดู ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบได้ปรับขึ้นจาก กก.ละ 31-32 บาทเป็น 35 บาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในเร็วๆนี้ โดยอาจทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถขายน้ำมันปาล์มขวดได้ในราคาควบคุมที่ 42 บาท เพราะราคาที่ 42 บาท คำนวณจากต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่กก.ละ 32 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้ ล่าสุด กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการนำประกาศการชะลอการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 7 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหากลงประกาศแล้วจะมีผลบังคับใช้ในทันที ซึ่งจะช่วยชะลอการนำน้ำมันปาล์มดิบมาผสมกับน้ำมันดีเซล ผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลบี 7 ได้เดือนละ 30,000 ตัน หากชะลอออกไป 2-3 เดือนก็น่าจะเพียงพอที่จะลดความตึงตัวของปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้ ก่อนที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจภาวะสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ของกรมการค้าภายใน พบว่ายังมีสต๊อกอยู่ปริมาณ 200,000 ตัน ไม่พบความผิดปกติว่ามีการกักตุนเพื่อปั่นราคา ทั้งในส่วนของโรงงานสกัด โรงกลั่นและผู้ผลิตไบโอดีเซล แต่การที่ราคาสูงขึ้น เป็นเพราะเป็นช่วงปลายฤดู และเมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกมา ราคาผลปาล์มสด และน้ำมันปาล์มดิบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแน่นอน