ศรส.ให้หน่วยงานราชการที่ถูกม็อบปิดล้อมฟ้องศาลแพ่งขอคุ้มครองชั่วคราว

ข่าวการเมือง Tuesday March 11, 2014 13:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) กล่าวว่า ตามที่ ศรส.ได้แต่งตั้ง พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ กระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะเจรจากับผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ ที่มีพระพุทธอิสระเป็นแกนนำ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวและต้องติดต่อราชการกับหน่วยงานในบริเวณนั้น ศรส.รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่การเจรจาดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ แม้คณะผู้เจรจาจะได้ยื่นข้อเสนอที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้ก็ได้รับการปฏิเสธจากพระพุทธอิสระทุกครั้ง อย่างเช่นการที่พระพุทธอิสระเรียกร้องให้พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม นอนค้างในที่ชุมนุม 3 วัน 3 คืน แต่พลเอกนิพัทธ์ยอมที่จะนอนค้างได้ 1 คืน เพราะเห็นว่าน่าจะเพียงพอแล้ว และยินดีให้ผู้ชุมนุมย้ายไปชุมนุมบริเวณใต้อาคารกระทรวงกลาโหม ซึ่งพระพุทธอิสระยืนยันแต่เพียงอย่างเดียวให้ ศรส.ต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของตน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อเรียกร้องที่ให้ผู้อำนวยการ ศรส.หรือปลัดกระทรวงกลาโหมต้องรับรองด้วยตำแหน่งและชีวิตหากเกิดอันตรายใดๆ กับผู้ชุมนุมแม้เพียงปลายเล็บข่วน
"ศรส.ไม่อาจปฏิบัติตามได้เพราะล้วนเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากในปัจจุบันมีการสร้างสถานการณ์โดยการก่อเหตุร้ายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และ ศรส.เองก็มีข้อจำกัดในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ตามที่คำพิพากษาของศาลแพ่งอย่างที่ทราบโดยทั่วกันแล้ว อย่างไรก็ตาม ศรส.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน และจะได้หาแนวทางและมาตรการอื่นๆ เพื่อเปิดถนนแจ้งวัฒนะและสถานที่ราชการในบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว" นายธาริต กล่าว

นายธาริต กล่าวว่า ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ เห็นถึงความจำเป็นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการปิดกรุงเทพมหานครของ กปปส. โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ดังนั้นเพื่อให้สถานที่ราชการสามารถกลับมาเปิดให้บริการประชาชนได้ตามเดิม ศรส.ร่วมกับส่วนราชการจึงได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการต่างๆ ที่ถูกปิดให้เริ่มเปิดทำการได้ถึง 66 แห่งแล้ว เหลือแต่เพียงสถานที่ราชการเพียงไม่กี่แห่งที่ยังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมอยู่ แต่หลังจากศาลแพ่งได้มีคำพิพากษา ส่งผลให้ ศรส.ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลักตามกฎหมายได้ และเป็นผลให้ กปปส.ยังคงนำมวลชนเคลื่อนไปตามสถานที่ราชการที่เปิดทำการแล้วและบริษัทเอกชนหลายแห่งอย่างต่อเนื่อง โดยปิดล้อมและคุกคามขับไล่ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน ดังเช่นเมื่อวานนี้ที่กลุ่ม กปปส.ได้นำมวลชนไปปิดล้อมกรมราชทัณฑ์ และอาคารชินวัตร 1 และ 2 และเช้าวันนี้ได้นำมวลชนไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนสนามบินน้ำ และกรมการข้าว

"การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง จึงได้มีหนังสือแจ้งปลัดกระทรวงทุกกระทรวงให้แจ้งหัวหน้าหน่วยงานทุกหน่วยงานที่ถูกแกนนำ กปปส.นำมวลชนไปปิดล้อม ปิดกั้น หรือขับไล่ข้าราชการ ให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยไม่มีการละเว้นเป็นอันขาด" นายธาริต กล่าว

ส่วนกรณีที่ บมจ.ปตท.(PTT) ได้ยื่นฟ้องแกนนำ กปปส.ต่อศาลแพ่ง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางเข้าออกอาคารของบริษัทฯ รวมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการชุมนุมออกไปจากบริเวณที่ชุมนุมและพื้นที่โดยรอบอาคารเป็นการชั่วคราวนั้น ศรส.เห็นควรให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ถูกกลุ่ม กปปส.นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกให้ได้รับความเสียหาย ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวโดยเร่งด่วน

ขณะนี้ ศรส.ได้รับแจ้งว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ได้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยพระพุทธอิสระปิดล้อม บุกรุก และยืดถือครอบครองพื้นที่โดยรอบอาคาร ใส่กุญแจคล้องโซ่ประตูหน้าอาคาร ตัดน้ำตัดไฟ ทำลายห้องควบคุมกระแสไฟฟ้าสำรอง ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงาน ซึ่งได้กระทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความเสียหายกับคดีพิเศษที่อยู่ในการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำให้คดีเกิดความล่าช้า และมีคดีพิเศษจำนวนไม่น้อยใกล้จะขาดอายุความ สำนวนคดีพิเศษ เอกสารสำคัญ ข้อมูลสำคัญทางคดี ทรัพย์สินของราชการ ทรัพย์สินส่วนตัวของข้าราชการ วัสดุอุปกรณ์ที่มีไว้สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการกระทำความผิดของเหล่าผู้กระทำผิดทางอาญา ต้องเสียหายหรือสูญหายไปกับการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม และประการสำคัญ พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนจากการกระทำผิดในคดีพิเศษ แล้วตกเป็นผู้เสียหาย ซึ่งไม่สามารถเข้ามาแจ้งเหตุร้องทุกข์หรือกล่าวโทษให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับอาชญากรที่เป็นผู้กระทำผิดได้ เช่น ความผิดเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ คดีคุ้มครองผู้บริโภค คดีสิ่งแวดล้อม คดีความผิดเกี่ยวกับการเงินการธนาคาร และคดีอื่น ๆ เป็นต้น

"การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือใช้สิทธิเกินส่วน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนทั่วไปและกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยค่าเสียหายที่อาจคำนวณเป็นเงินได้ในขณะนี้มีจำนวนสูงหลายล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าเสียหายอันมิอาจคำนวณเป็นเงินได้ที่เกิดขึ้นกับประชาชนและความเสียหายในการดำเนินคดีทั้งในปัจจุบันและในอนาคตด้วย และวันนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดขอให้แต่งตั้งพนักงานอัยการเพื่อฟ้องพระพุทธอิสระเป็นคดีแพ่งในข้อหาละเมิด ขับไล่ เรียกค่าเสียหาย และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วยแล้ว" นายธาริต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ