(เพิ่มเติม) โฆษกศาล รธน.เผยตุลาการฯมีมติรับคำร้องวินิจฉัยกรณีเด้ง"ถวิล เปลี่ยนศรี"

ข่าวการเมือง Wednesday April 2, 2014 13:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องไว้วินิจฉัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการอันต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)

โดยคำร้องนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และคณะรวม 28 คน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ เนื่องจากศาลปกครองมีคำพิพากษาระหว่างนายถวิล เปลี่ยนศรี ในฐานะผู้ฟ้องคดี กับนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ว่าการโอนผู้ฟ้องคดีจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ตามประกาศสำนักนายรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 ก.ย.2554 เป็นการดำเนินการโดยมิได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมายและมิได้อยู่ภายในขอบเขตกฎหมาย ทั้งยังไม่มีเหตุผลรองรับที่มีอยู่จริงและอธิบายได้ จึงถือได้ว่าเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำพิพากษาให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ คือวันที่ 30 ก.ย.2554

โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา ตามมาตรา 69 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ควรจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้ฟ้องคดีได้กลับสู่ตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ทั้งนี้ภายใน 45 วันนับแต่มีคำพิพากษา

ทั้งนี้ ผู้ร้องเห็นว่าปัจจัยสำคัญในการโอนนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เชื่อได้ว่าเป็นความประสงค์ที่จะให้ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ดำรงอยู่ในขณะนั้นว่างลง เพื่อแต่งตั้งให้บุคคลอื่นดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทน โดยปรากฎพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่เป็นไปเพื่ประโยชน์ของตนเองและเครือญาติ ตลอดจนพรรคเพื่อไทยที่ผู้ถูกร้องสังกัดอยู่

จึงเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองในการแต่งตั้งหรือโอนข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง และเป็นการให้ข้าราชการที่มีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมืองพ้นจากตำแหน่ง โดยมิใช่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และมิได้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) และ (3) อย่างชัดแจ้ง มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7)

ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาแล้ว กรณีตามคำร้องเป็นการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ประกอบมาตรา 182 วรรค 3 ที่บัญญัติให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อต่อประธานสภาที่ตนเป็นสมาชิก ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลง และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ โดยให้นำบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และมาตรา 92 มาใช้บังคับกับการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีว่ามีการกระทำอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) หรือไม่ และเมื่อคำร้องนี้มีสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาและประธานวุฒิสภาได้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย

กรณีนี้จึงอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันรับสำเนาคำร้อง

ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมช.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)ส่งเรื่องให้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพื่อขอให้มีคำสั่งให้คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ยุติการชุมนุม เนื่องจากไม่ได้เป็นการใช้สิทธิชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธนั้น คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ