กลุ่มกรีนจะเข้าชี้แจง กกต.ปม"ยิ่งลักษณ์"ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งพรุ่งนี้

ข่าวการเมือง Monday April 7, 2014 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มกรีนได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ถือโอกาสชี้แจงกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสถานะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหลายมาตรา ทั้งเรื่องการสัญญาว่าจะให้ และการใช้สื่อของรัฐหาเสียงให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมเหนือคู่แข่ง อันอาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ล่าสุด กกต.ได้ติดต่อมายังตนเอง และนายประกิต จันทร์สมวงศ์ ทนายกลุ่มกรีน ในฐานะผู้ร้อง เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้(8เม.ย.)

นายจาตุรันต์ กล่าวว่า การเข้าให้ปากคำต่อ กกต.ครั้งนี้ กลุ่มกรีนได้เตรียมหลักฐานเพิ่มเติม เป็นหนังสือสั่งการของนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ให้เผยแพร่คำแถลงของนายกรัฐมนตรี และยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ถือเป็นคดีอาญาร้ายแรง อีกทั้งนายศิริพงษ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลทุกอำเภอทุกตำบลทุกหมู่บ้าน แต่ขอบข่ายงานของนายศิริพงษ์มิได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆกับโครงการรับจำนำข้าว จึงเชื่อได้ว่าอธิบดีกรมการปกครองได้รับคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมให้ใช้กลไกของรัฐผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยเหลือให้เป็นคุณต่อพรรคเพื่อไทยให้มีคะแนนนิยมในการเลือกตั้งในขณะนั้น

"กลุ่มกรีนต้องการให้ กกต.ลงไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่า อธิบดีกรมการปกครองได้รับคำสั่งนี้มาจากไหน และใครเป็นผู้สั่งการ เพราะรู้กันดีว่า รมว.มหาดไทย ก็เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นหนึ่งในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกด้วย" นายจาตุรันต์ กล่าว

ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีนยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะว่า แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่การกระทำผิดกฏหมายเลือกตั้งถือเป็นคดีอาญา และมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง ยังคงต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะฟ้องร้องตนเองฐานยื่นคำร้องให้ กกต.สอบกรณีข้างต้นนั้น นายจาตุรันต์ กล่าวว่า ตนเองใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนตามกฏหมายรัฐธรรมนูญในการยื่นขอตรวจสอบ เช่นเดียวที่นายพร้อมพงศ์ใช้สิทธิ์ยื่นตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามมาเป็นร้อยๆครั้งแต่ไม่ได้ผล เพราะเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง

"พรรคเพื่อไทยควรจะใจกว้าง เพราะหากไม่ได้ทำผิดจริง ก็ไม่ควรจะร้อนตัว อย่าเปิดประเด็นข่มขู่ประกาศฟ้องผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาล ควรนำเวลาเตรียมข้อมูลชี้แจงต่อ กกต. และทบทวนปัญหาเรื่องนโยบายที่สร้างปัญหาเป็นภาระต่อประเทศชาติอย่างโครงการรับจำนำข้าวดีกว่า" นายจาตุรันต์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ