ทั้งนี้ นอกจากการคัดเลือกจากคนที่มีความรู้ความสามารถ ความไว้วางใจแล้ว ยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้มีการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติให้ได้โดยเร็ว เพราะต้องการให้เกิดความเป็นเอกภาพและตอบสนองภารกิจหลัก คืองานปฏิรูปให้เป็นผลสำเร็จได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
หัวหน้า คสช.ระบุว่า ขณะนี้เข้าสู่การทำงานในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิรูป เพื่อจะนำไปสู่จุดสุดท้าย คือการมีรัฐบาลที่ถาวร และเป็นรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับถาวร พร้อมยอมรับว่าวันนี้อาจจะต้องบริหารราชการแบบไม่ปกติไปก่อนสักระยะหนึ่ง แต่เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยเช่นกันแต่เป็นแบบชั่วคราวไปก่อน และเห็นว่าขณะนี้ต่างชาติให้การยอมรับประเทศไทยมากขึ้นในการเดินเข้าสู่ระยะที่ 2 ของโรดแมป
"วันนี้ยังต้องบริหารราชการแบบไม่ปกติอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ถ้ามีรัฐบาล มีรัฐธรรมนูญชั่วคราว มี ครม.ถือว่าเป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยบ้าง วันนี้เรานำประชาธิปไตยแบบสากลมามาก อาจจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยชั่วคราวไปก่อน อย่างไรก็ตามต่างชาติก็ยอมรับมากขึ้นของการเดินสู่ระยะที่ 2 ของเราตรงนี้" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุส่วนในเรื่องการปฏิรูปนั้น ถึงแม้จะมีสภาปฏิรูปประเทศที่คัดมาจาก 550 คน ให้เหลือ 173 คน และคัดมาจาก 5 คนในแต่ละจังหวัดให้เหลือจังหวัดละ 1 คนเป็น 73 คน ทั้งหมดคือ 173 บวก 77 จังหวัด รวมเป็น 250 คน คือยอดของการปฏิรูป 250 คนที่มาทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะมาพูดคุยกันในสภาปฏิรูปแล้ว แต่ละจังหวัดที่ คสช.ไปเปิดศูนย์ปรองดองปฏิรูปตามทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบล ทุกหมู่บ้านก็เสนอกันมาได้เสนอผ่านตัวแทนของท่านที่เข้ามา ซึ่งจะเสนอมาโดยนิติบุคคลเป็นคนเสนอรายชื่อเข้ามา และท่านก็สมัครเข้ามา
ฉะนั้นในระหว่างที่เขาประชุมกัน ท่านส่งข้อมูลมาได้ ผ่านคนของท่านเข้ามา เราเปิดทุกช่องทาง นี่คือการเตรียมการระยะที่ 1 จะไปสู่ระยะที่ 2 ทุกคนยังมีส่วนร่วมได้ตลอดเวลา ในการที่จะไปทำกฎหมาย ในการที่จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นต้น ขอให้ทุกคนเตรียมการให้พร้อม อย่าบอกว่าไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย ไม่เข้ามาดีกว่า เขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราวไปแล้ว เราต้องทำตามนั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า คสช.จะไม่เข้าไปชี้นำในสภาปฏิรูป เพราะถือเป็นเรื่องของท่านที่ต้องมาทำกันให้ได้ และ คสช.จะเปิดแนะนำวันที่ 9 สิงหาคม 2557 ณ สโมสรกองทัพบกวิภาวดีรังสิต โดยจะให้กระทรวงกลาโหมเป็นเจ้าภาพในการแนะนำชี้แจง จึงขอเชิญทุกภาคส่วนที่ต้องเกี่ยวข้องทั้ง 11 กลุ่มจากตัวแทนมาร่วมมือร่วมใจกันในการจะปฏิรูปกันต่อไป