ส่วนการย้ายนายอารีพงษ์ ภู่ชะอุ่ม อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับมาเป็นปลัดกระทรวงพลังงานนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากรัฐมนตรีใหม่อยากได้คนที่มีความรู้มาทำงาน และตอนที่ย้ายไปก็ไม่ได้มีความผิดอะไร
"ถ้าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและไม่ใช่คนเลว ผมว่ามีคนต้องการหมด แต่ถ้าไปทำความเลว พอกลับมาก็ต้องดูว่าจะทำตัวอย่างไร เมื่อได้รับความรักจากหลายๆ คนยินดีให้มาทำงาน ก็ต้องทำให้ดี แต่ถ้าไม่ดีก็จะโดนหนักกว่าเดิม ฉะนั้นทุกคนต้องระวังตัวและคิดแบบนี้ ขออย่าเป็นกังวล และการที่ให้ทหารไปนั่งในกระทรวงพลังงาน ไม่ได้เพื่อไปบังคับ แต่เป็นเพียงการไปพูดและอธิบายตามแบบทหาร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมยืนยันว่า การแต่งตั้งปลัดกระทรวงฯ เป็นเรื่องของรัฐมนตรีที่ขอมติจากคณะรัฐมนตรีตามความเหมาะสม ซึ่งบางคนอาจจะย้ายกลับไปกลับมา เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ซึ่งไม่อยากให้เกิดความหวาดระแวงหรือกังวลว่าเป็นเด็กของใคร มีแต่ของประชาชน เมื่อรัฐมนตรีเสนอใครมาก็ต้องอนุมัติไป เพราะก่อนจะมีการแต่งตั้งต้องผ่านการพิจาณาของแต่ละกระทรวง รวมถึงพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) มาแล้ว ซึ่งถ้าเสนอมาแล้วไม่เหมาะสมก็จะให้กลับไปทบทวนว่าดี ไม่ดีอย่างไร เพราะมีข้อมูลมาก
"พวกโซเซียลมีเดียไม่ค่อยให้ความเป็นธรรมกับคน ต้องระมัดระวัง การพูดจาให้ร้ายโดยไม่มีหลักฐาน มันเป็นอันตรายกับคนที่ถูกว่า พอไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แก้ตัวไม่ได้ นั้นคือปัญหาอย่าทำบาปกับเขาเลย ถ้าเขาไม่ดีจริงก็ว่ามา หาหลักฐานมา นี่คือการปรับย้ายข้าราชการระดับสูง ระดับกระทรวงและอธิบดีจะตามมา จะต้องมีว่างก่อน แต่ทั้งนี้จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนตุลาคม ต้องรอโปรดเกล้าฯ ก่อน เว้นแต่กระทรวงไหนที่มีตำแหน่งว่างอยู่ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นการชั่วคราว เพราะมีกฎหมายอยู่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว