นายกฯยันเรียกบุคคลปรับทัศนคติเพื่อสร้างความสงบปท.ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน,ชวนลงมติร่างรธน.

ข่าวการเมือง Saturday April 2, 2016 10:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เผยแจงต่างประเทศกรณีการเรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทยที่ต้องการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ความสงบสุขให้แก่ประเทศ ขณะที่ยืนยันการดำเนินการดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิมนุษยนชน พร้อมทั้งชวนประชาชนออกไปลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น

"เรื่องปรับทัศนคติ เป็นเรื่องของกฎหมาย ทุกคนรู้กฎหมายใครจะบอกไม่รู้กฎหมายไม่ได้ รัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ อะไรก็เขียนไว้ทั้งหมด คนไทยทุกคนต้องรู้กฎหมายนะครับ รู้ข้อห้าม แต่หลายคนก็ยังทำ ทั้งนี้เพื่อมุ่งหมายจะสร้างความขัดแย้งบิดเบือนโจมตีรัฐบาลในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โจมตีคสช. อ้างคำว่าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ผมพูดมาหลายครั้งแล้ว คนละเรื่องกัน ถ้ากฎหมายมีไว้แล้ว ท่านฝืนท่านก็ผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดี ท่านก็บอกว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ผมว่าไม่น่าใช่นะ ผมก็ได้อธิบายหลายประเทศไปแล้ว เมื่อวานก็อธิบายกับคณะเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ว่าเหตุผลของเราในเรื่องการเชิญมาปรับทัศนคตินี่ เราทำอย่างไร ไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาไปกล่าวอ้างกัน หรือย่างที่มีการล๊อบบี้ยีสกันต่างๆ ในต่างประเทศ ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ทุกคนต้องเข้าใจประเทศไทย ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เพื่อคนไทย ทำเพี่ออนาคต"นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ"ผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อดึกวานนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หากไม่สามารถทำให้ประเทศสงบได้ ความไว้เนื้อเชื่อใจต่างๆ ก็ไม่เกิดขึ้น และจะกระทบต่อการค้าขายระหว่างประเทศได้ โดยวันนี้สิ่งที่ดีขึ้นก็คือเรื่องความมีเสถียรภาพทางการเมือง ความสงบสุข ไม่มีการใช้กำลังต่อต้านกันซึ่งเป็นอันตรายที่สุด

พร้อมทั้งยืนยันว่าสามารถอธิบายได้ว่าการเรียกบุคคลมาปรับทัศนคตินั้นไม่ใช่เรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะไม่เคยไปทำร้ายคนต่าง ๆเหล่านั้น ถ้าผิดจริง ๆ ตามกฎหมายที่ชัดเจนก็ต้องส่งดำเนินคดี ก็ส่งตำรวจ ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป ถ้ายังไม่ชัดเจน เพียงแต่ว่าเข้าใจผิด ก็เรียกมาพูดคุย แต่หลายคนก็พูดหลายครั้งแล้ว เรียกหลายครั้งแล้วก็ยังไม่เข้าใจ แสดงว่าไม่มีเจตนาอันบริสุทธิ์ในการจะวิพากษ์วิจารณ์ อย่างที่เขากล่าวอ้าง ก็จำเป็นต้องตักเตือนกันบ้าง

"คสช. ไม่ได้หมายความว่าใครพูดไม่ได้เลย ผมไม่เห็นคนอื่นเขาเดือดร้อน ก็มีเดือดร้อนอยู่ไม่กี่คน คนทั้งประเทศเกือบ 70 ล้าน เขาก็ทำมาหากินอยู่ปกติ ก็มีไม่กี่คนที่โวยวาย ร้องอยู่เรื่อย เรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องที่บิดเบือนทั้งหมด ผมอยากให้สังคมแยกแยะบ้าง คสช. พยายามไม่เป็นผู้ที่มาชี้ว่าผิดหรือถูกอยู่แล้ว หรือใช้ กฎหมายใหม่มาดำเนินการทั้งสิ้น อะไรที่จำเป็นเราก็จำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย นอกนั้นก็เป็นกฎหมายปกติ หลายคนที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ ละเมิดทั้งกฎหมายพิเศษ กฎหมายปกติ หรือทุกอย่าง กฎหมายสังคม ละเมิดทุกอย่าง ผมถามว่า แล้วท่านจะเอายังไง คนที่ชอบฝ่าฝืนก็ฝ่าฝืนเหมือนเดิม กฎหมายพิเศษก็ไม่ยอม คำสั่งพิเศษก็ไม่ยอมอีก คนเหล่านี้ถ้าหากว่าเข้ามาสู่ในการเมือง ก็ทำให้การเมืองเราเสียหายอีกต่อไป"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำอีกครั้งโดยเรียกร้องให้ประชาชนมาลงประชาชาติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตนเองก็มีความรับผิดชอบที่ต้องดูแลบ้านเมืองให้มีความเรียบร้อย โดยไม่ปล่อยให้ใครทำตามอำเภอใจ และไม่อยากให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เดือดร้อน

"อยากให้ประชาชนเลือกตัดสินใจเอาเอง แล้วก็ไปลงประชามติให้มากที่สุด ผมกะเกณฑ์ไม่ได้อยู่แล้ว แล้วแต่ท่าน 2 ปีที่ผ่านมานั้น หลายอย่างมา เราได้ให้โอกาสในการที่จะทำความเข้าใจ โอกาสในการที่จะสำนึก แต่ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยมา ยังเหมือนเดิม ยังทำเหมือนเดิมทุกอย่าง ต่อต้านกฎหมาย หลบหนี บิดเบือน ล๊อบบี้ ต่างๆ เหล่านี้ไม่เคยยุติทั้งสิ้น ผมถามว่าคนเหล่านี้ หากเข้ามาสู่ในวงการเมือง ในการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ประเทศชาติจะเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้ประชาชนถามเขาดูด้วยว่าคนเหล่านี้ เขาจะทำอะไรต่อไป ในสิ่งที่ผมพูดมาแล้ว ผมทำมาตลอด แต่เขาไม่เคยทำ หรือเขาทำผิดๆ มา วันนี้ถามเขาด้วยว่าที่เสียหาย เขาจะทำยังไง เขาจะรับผิดชอบตอนไหน เมื่อเขากลับมาคราวหน้า ใครกลับมาก็แล้วแต่ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องตรงไหน กรุณารับผิดชอบด้วยในทางกฎหมาย"นายกรัฐมนตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ