พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมฯ รับทราบแผนผนึกกำลังและทรัพยากรในการป้องกันประเทศ เกี่ยวกับการเตรียมการขั้นตอนการระดมกำลังป้องกันประเทศในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทำตารางการทำงานของทุกภาคส่วนในช่วงเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีให้จัดทำแผนความรับผิดชอบในแต่ละเรื่อง โดยให้ทหาร-ตำรวจประสานความร่วมมือกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ รับทราบการพิจารณาการกำหนดท่าทีของประเทศไทยต่อกลุ่มประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาสมดุลความสัมพันธ์ให้ดีกับประเทศเหล่านั้น เพราะจะทำให้ความมั่นคงประเทศไทยมีมากขึ้น โดยนายกฯ ได้แบ่งกลุ่มประเทศมหาอำนาจเป็น กลุ่มประเทศตะวันตก และ กลุ่มประเทศตะวันออก เพราะแต่ละฝ่ายมีความแตกต่างกัน โดย สมช.และกระทรงต่างประเทศ จะดำเนินการต่อไป
และรับทราบถึงความคืบหน้าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะแล้วเสร็จและประกาศใช้ได้ในเดือนส.ค.นี้ โดยระหว่างนี้ทาง สมช.จะเร่งทำกฎหมายประกอบไว้คู่ขนานกันไป เพื่อให้กฎหมายประกาศใช้ได้ทันที
รวมถึงการจัดทำยุทธศาสตร์ความมั่นคงในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนก็จะดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และสอดคล้องกับแผนปฎิรูปประเทศ รวมถึงแผนความมั่นคงของประเทศ
ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้นจะดำเนินการตามกรอบการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2559-2564 โดยให้คนในพื้นที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข โดยนายกรัฐมนตรีสั่งจัดทำตารางให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบในแต่ละภารกิจ ได้มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา
เลขาธิการ สมช.ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟหัวลำโพงว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง