(เพิ่มเติม) ที่ประชุม สนช.ลงมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 60

ข่าวการเมือง Thursday September 8, 2016 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ด้วยคะแนน 183 เสียง งดออกเสียง 2 และไม่ลงคะแนน 1 จากจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 186 คน

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2560 มีกรอบวงเงิน 2.733 ล้านล้านบาท จัดทำเป็นงบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้ว โดยได้ปรับลดงบประมาณส่วนราชการต่างๆ รวมกว่า 17,980 ล้านบาท ส่วนงบกลางฯ ได้รับจัดสรรเพิ่มขึ้นกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ขณะที่กระทรวงกลาโหมได้จัดสรรเพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความมั่นคงภายในของประเทศในความรับผิดชอบของกองทัพบก

สำหรับกระทรวงที่ได้งบประมาณสูงสุด คือ กระทรวงศึกษาธิการ 493,051,854,800 บาท, กระทรวงกลาโหม 210,777,461,400 บาท, กระทรวงสาธารณสุข 126,196,350,000 บาท, กระทรวงมหาดไทย 73,624,831,600บาท และกระทรวงคมนาคม 63,538,688,500 บาท

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายปี 2560 มุ่งเน้นการจัดทำงบประมาณให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 รวมทั้งตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่มีเป้าหมายไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยในช่วงระหว่างนี้หน่วยงานต่างๆ ต้องเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และหากหน่วยงานใดมีงบฯ ผูกพันต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ต้องมีมาตรการกันเงินเหลื่อมปีให้อยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม และหากยังไม่ก่อหนี้ผูกพันให้ยกเลิกโครงการและนำเงินส่งคืนคลังทันที

ทั้งนี้มีการเพิ่มงบประมาณจำนวน 19 รายการ รวมเป็น 17,000 ล้านบาท อาทิ งบกลางเพิ่มขึ้น 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ สำหรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมาย และไม่สามารถปรับแผนการดำเนินงาน จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ และใช้จากแหล่งเงินอื่นได้ และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่กระทรวงกลาโหมปรับเพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท ในการเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ปกป้องอธิปไตย และการรักษาความมั่นคงภายในของประเทศในความรับผิดชอบของกองทัพบก

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ และนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสนช. ได้อภิปรายถึงการปรับลดงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ถูกปรับลดงบประมาณถึง 106 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือเด็กเยาวชน และการพัฒนาพื้นที่ห่างไกล การพัฒนานิคมสร้างตนเอง รวมถึงอภิปรายการปรับลดงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะกระทบต่อการก่อสร้างสนามกีฬาในหลายพื้นที่ ทั้งในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งจะทำให้ขาดการส่งเสริมด้านสุขภาพ และอาจกระทบไปถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดตากอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงว่า การปรับลดงบของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ถูกปรับลดตามปริมาณงานที่ลดลง ซึ่งการปรับลดแต่ละหน่วยงานพิจารณาตามผลงานของส่วนราชการ หากหน่วยงานใดมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณสามารถดำเนินการเบิกจ่ายจากงบฯกลาง แต่จะสามารถเบิกจ่ายได้เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น

จากนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลกล่าวขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ และที่ประชุม สนช.ที่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2560 พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่พิจารณาในเวลาที่จำกัด ซึ่งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความแตกต่างจากที่ผ่านมาคือจะนำไปใช้ในปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาปีสุดท้ายของโรดแมพที่รัฐบาลวางไว้ จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และจะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น คือ การประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะมีหลายมาตราใหม่จะมีผลบังคับใช้ ดังนั้นการใช้จ่ายงบฯ ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและต้องใช้จ่ายในกรอบตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย

นายวิษณุ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าการใช้จ่ายงบฯ จากนี้ไปจะเป็นแบบอย่างของรัฐบาลต่อไป และขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้งบฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ ตามที่ สนช. ให้คำแนะนำและตั้งข้อสังเกต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ