(เพิ่มเติม) โฆษกรัฐบาลเผยชะลอบังคับใช้กฎหมายห้ามนั่งกระบะท้ายหลังถูกประชาชนคัดค้าน

ข่าวการเมือง Thursday April 6, 2017 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลวอนสังคมเข้าใจความหวังดี ออกกฎป้องกันความสูญเสียในการเดินทาง ชี้จริงใจไม่ซ่อนเร้น พร้อมรับฟังเสียงสะท้อน ผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมาย แนะคนไทยช่วยคิดหาทางออก

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเรื่องการบังคับใช้กฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะและแค็บของรถ รวมทั้งให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ว่า อยากให้สังคมเข้าใจถึงความหวังดีของรัฐบาลที่ต้องการออกกฎป้องกันความสูญเสียในการเดินทาง โดยไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และรัฐบาลพร้อมผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว

"อยากให้สังคมเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลว่าทำไปเพื่อลดอุบัติเหตุ ป้องกันการสญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วยความจริงใจ ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้น หรือต้องการทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกลำบาก แต่เมื่อได้รับฟังเสียงสะท้อนของคนส่วนใหญ่แล้วจึงมีความเห็นให้ผ่อนผันชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนก่อน" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเมื่อประชาชนเดือดร้อนและยังปรับตัวไม่ทัน รัฐบาลก็ยินดีฟังทุกความคิดเห็นด้วยความห่วงใย โดยความจริงแล้วข้อบังคับตามมาตรา 44 ที่ออกมานั้นมีกฎหมายปกติกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย เช่น ขับรถเร็ว เมาสุรา บรรทุกเกิน ฝ่าฝืนกฎจราจร ฯลฯ จึงอยากให้คนไทยมองถึงจุดนี้และช่วยกันคิดว่าจะลดความสูญเสียได้อย่างไร เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

"ในช่วงนี้จะยังไม่มีการจับปรับรถกระบะ ทั้งที่มีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะหรือในแค็บของรถ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงข้อกฎหมาย ส่วนการคาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลนั้น เจ้าหน้าที่จะยังคงบังคับใช้กฎหมายด้วยการจับปรับผู้โดยสารเบาะคู่หน้าต่อไป ขณะที่ผู้โดยสารด้านหลังหากพบว่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เจ้าหน้าที่จะตักเตือนก่อน แต่สำหรับรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ และรถโดยสารประจำทาง จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หากฝ่าฝืนจะถูกจับปรับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารที่ต้องฝากชีวิตไว้กับผู้ขับขี่รถสาธารณะ" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลอยากสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชนถึงการบังคับใช้กฎหมายและการผ่อนปรนเป็นบางกรณี สำหรับการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ ดังนี้

1.รัฐบาลไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ประชาชน แต่จำเป็นต้องมีมาตรการลดอุบัติเหตุ แต่เมื่อประชาชนยังไม่พร้อม รัฐบาล จะเร่ง รณรงค์สร้างความเข้าใจ และให้เวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่ง

2.เจ้าหน้าที่จะยังคงบังคับใช้กฎหมายด้วยการจับปรับในกรณีของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่จะอนุโลม ตักเตือน ผู้ที่นั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้อง

3.รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง

4.สำหรับรถกระบะ อนุโลมให้นั่งในแค๊ปและในท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ห้ามนั่งบนขอบกระบะหรือฝาปิดท้ายรถ

5.เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา หรือใช้ความเร็วเกินกำหนด ขับรถหวาดเสียว หรือแซงในที่คับขัน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง

6.นายกฯ สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากประชาชน หากผู้ใดพบเห็น ขอให้ถ่ายคลิปและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติงาน โดยขอความร่วมมือให้คนไทยช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสม มุ่งเน้นที่การสร้างจิตสำนึก และความรับผิดชอบของทุกคน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนนที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ