"ไพรินทร์" รอแบ่งงานคมนาคม พร้อมเร่งเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจ็คท์-EEC-ผลักดันประมูลรถเมล์ NGV

ข่าวการเมือง Friday December 1, 2017 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิธ และศาลพระภูมิ ที่กระทรวงคมนาคม เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ขณะนี้ต้องรอรับนโยบายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมก่อน รอความชัดเจนการแบ่งงานว่าจะได้ดูแลหน่วยงานใดบ้าง โดยจะนำประสบการณ์ที่ได้เคยทำงานบมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนน่าจะมากที่สุดมาใช้กับการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคมได้ ซึ่งแผนงานนั้นดีแล้วเพียงแต่จะต้องเร่งรัดให้สอดคล้องกับแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งหากขับเคลื่อน EEC ได้สำเร็จ จะเป็นตัวหลักที่ทำให้ GDP ของไทยขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้

"EEC เดิมก็คือ อีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งประสบการณ์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เคยเป็นวิศวกรชุดแรกที่เข้าไปบุกเบิกนิคมมาบตาพุด จนทำให้เป็นนิคมติดท็อป 10 ของโลก และดัน GDP ของประเทศในสัดส่วน 20-30%" นายไพรินทร์ กล่าว

นายไพรินทร์ กล่าวต่อว่าหากได้รับมอบหมายให้ดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะผลักดันโครงการ Smart City เนื่องจากก่อนหน้านี้ ปตท.ได้เสนอผลการศึกษาและแผนลงทุนโดยเสนอใน 10 เมือง โดยมีเงื่อนไขอยู่คู่ขนานไปกับเส้นทางรถไฟทางคู่ โดยแต่ละพื้นที่จะมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกันไป ซึ่งส่วนกลางมีที่พหลโยธินของการรถไฟฯ เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม และเชียงราก จะเป็นเมืองสำหรับอาศัย

อีกทั้งมองว่า สถานีกลางบางซื่อ มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่เชื่อมโยงไปถึงพื้นที่ EEC ซึ่งหากนำโมเดลโยโกฮาม่าของญี่ปุ่นที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่รองรับโตเกียว โดยมีมอเตอร์เวย์ 3 สายและมีขนส่งทางน้ำด้วย ขณะที่ไทยมีมอเตอร์เวย์เชื่อ 1 เส้นอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งหากวางแผนระบบขนส่งทางบก ทางราง ทางน้ำที่ดี จะรองรับการเติบโตของ EEC ได้อีก 20-30 ปี

สำหรับปัญหาการจัดซื้อรถเมล์ NGV นั้น นายไพรินทร์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องยาก ควรผลักดันให้สำเร็จ เป้าหมายคือจะทำให้อย่างไรที่จะให้ประชาชนมีรถดี รถใหม่ ใช้บริการ

อีกทั้งจะเร่งแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของไทย ซึ่งมีสถิติติดอันดับโลก ซึ่งปตท.ใช้การขนส่งหลายรูปแบบ ทั้งท่อ ราง ถนน หากเกิดอุบัติเหตุจะเสียหายมาก จึงได้กำหนดเป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์ มีการลงทุน ด้านเทคโนโลยี ติดกล้องบนรถ เพราะ 90% อุบัติเหตุเกิดจากคนขับ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งในส่วนของรัฐ จำเป็นต้องร่วมมือกับเอกชนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา และสร้างจิตสำนึก เชื่อว่าจะลดสถิติอุบัติเหตุลงได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ