ไทย-มาเลเซียพร้อมกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงเพื่อรับมือภัยคุกคามสมัยใหม่

ข่าวการเมือง Thursday March 15, 2018 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ดาโต๊ะ สรี ฮิซัม มูดิน บิน ตุน ฮุสเซน (Dato’ Seri Hishammuddin Bin Tun Hussein) รมว.กลาโหม มาเลเซีย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee-GBC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 54 โดยทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันดำเนินมาอย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้น มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำทั้งในระดับรัฐบาลและกองทัพอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีของไทยมีความยินดีที่การจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซียเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้มีการลงนามร่วมกันระหว่างเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา สำหรับการบริหารจัดการชายแดนไทย-มาเลเซียนั้น ทั้งสองฝ่ายมีกลไกความร่วมมือภายใต้คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งได้มีการหารือกันเรื่องการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจเรื่องรั้วเดี่ยวบนเส้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย

ในการนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความประสงค์ให้ไทยและมาเลเซียกระชับความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์มากกว่าการเป็นคู่แข่งขัน เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งมากขึ้น พร้อมขอให้มาเลเซียสนับสนุนสินค้าทางการเกษตรของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางพาราไม่ให้ตกต่ำ

ขณะที่ รมว.กลาโหม มาเลเซีย กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาพบกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง และแสดงความชื่นชมการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงและก้าวหน้าในทุกมิติ โดยเฉพาะความมีเสถียรภาพและความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมของไทย พร้อมกล่าวว่า นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ฝากความระลึกถึงมายังนายกรัฐมนตรี

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านความมั่นคง โดยเห็นว่าปัจจุบันประเด็นความมั่นคงมีความซับซ้อน จะต้องคำนึงถึงทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ Cyber Security และ Financial Security อย่างไรก็ตามต้องไม่ละเลยเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ และการก่อการร้าย ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางสื่อออนไลน์ ที่ปัจจุบันมีการลงข้อมูลข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้เป็นปัญหาสังคมและความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการเปิดฮอตไลน์ (Hotline) เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารโดยตรง สำหรับเจ้าหน้าที่ในทุกระดับที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง

สำหรับปัญหาโรฮีนจานั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าประเทศใดประเทศหนึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาโดยลำพัง แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศ ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน ให้ชาวโรฮีนจามีคุณภาพชีวิตที่ดี จะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ได้แก่ การสนับสนุนอาหาร การศึกษา และสาธารณสุข ซึ่งจะทำให้ปัญหาโรฮีนจาลดลงได้

โอกาสนี้ รมว.กลาโหม มาเลเซีย ได้แสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยสันติวิธี และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพูดคุยอยู่ในช่วงของการสร้างความไว้เนื้อเชื้อใจระหว่างคณะพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐซึ่งต้องอาศัยเวลา โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือขั้นตอนการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) พร้อมแสดงความขอบคุณมาเลเซียที่มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ด้านการอำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหวังจะได้รับความร่วมมือดังกล่าวจากฝ่ายมาเลเซียต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะนำประเด็นที่พูดคุยกันวันนี้ไปหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ 2018 เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ให้ไทย-มาเลเซียเติบโตอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ