นายกฯขอ ปชช.เชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ-กระบวนการยุติธรรม

ข่าวการเมือง Saturday March 31, 2018 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานในสังคมไทย เป็น "สนิม" ในสังคม ในระบบราชการของเรา ปัจจุบันนับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีการตรวจสอบจากภาคประชาชน สื่อมวลชน สื่อโซเชียล

"ขอบคุณที่ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลและ คสช. ก็เปิดกว้างเพื่อจะเปิดช่องทางรับเรื่องราวร้องเรียนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีที่เป็นข่าว ผมได้สั่งการให้ขยายผลไปทุกที่ ทุกกองทุน ทุกโครงการ ที่หลักฐานจะพาไป และขอให้ประชาชนทุกคน ช่วยให้เบาะแสมาด้วย"

นอกจากนี้ คสช. ได้กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เข้มงวดขึ้น ในการประพฤติมิชอบในระบบราชการ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบในหลักการ และสั่งการให้ทุกหน่วยงานยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด อาทิ (1) ในกรณีที่มีการร้องเรียน มีข้อร้องเรียน ให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และให้พิจารณาดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญาโดยเร็วให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

(2) กรณีที่มีเหตุน่าเชื่อถือ ที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการหรือสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน แม้ผลการตรวจสอบยังไม่อาจสรุปความผิดได้ชัดเจน ถึงขั้นชี้มูลความผิด ก็ให้พิจารณาปรับย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปดำรงตำแหน่งอื่นเป็นการชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นนะครับก็ต้องตรวจสอบกันต่อ (3) หากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนถึงขั้นชี้มูลความผิดแล้ว นอกจากจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดโดยเร็วแล้ว อาจพิจารณาให้ออกจากตำแหน่งหรือออกจากราชการไว้ก่อนตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งอาจมีการเอาผิดทางอาญาอีกด้วย โดยต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณาดำเนินคดีโดยทันที

(4) กรณีที่เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง เมื่อถูกย้ายพ้นจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว ห้ามปรับย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งในลักษณะเดิม หรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นภายในเวลา 3 ปี (5) สำหรับผู้ที่ปฏิบัติราชการเกิดความล่าช้าหรือไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ปล่อยปละละเลย สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน อาจถูกพิจารณาให้มีการย้ายหรือการโอนไปดำรงตำแหน่งอื่น เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และ (6) ให้มีมาตรการคุ้มครองพยานผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสในการตรวจสอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้การได้รับข้อมูลและหลักฐานในการดำเนินการต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจงใจให้ข้อมูลเพื่อใส่ร้ายหรือบิดเบือนข้อมูลที่เป็นผลร้ายต่อผู้อื่น บุคคลอื่น ให้พิจารณาดำเนินการลงโทษบุคคลดังกล่าวอย่างเด็ดขาดอีกด้วย ทั้งในทางโซเชียล มีเดียด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กระบวนการยุติธรรม และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และสร้างความเชื่อมั่นเกิดความไว้วางใจแก่ประชาชน ซึ่งเป็น "เจ้าของประเทศ" อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ