ส.องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จี้ลงโทษ-เปลี่ยนตัวกรรมการสรรหา กสทช. เหตุไร้ประสิทธิภาพตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

ข่าวการเมือง Friday April 20, 2018 14:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องต้นสังกัดหน่วยงานที่จะส่งตัวแทนทั้ง 6 หน่วยงาน/องค์กรมาเป็นกรรมการสรรหา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รอบใหม่ ได้พิจารณาคัดเลือกตัวแทนคนใหม่ที่มีความตั้งใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิผลตามเจตนารมณ์ของมาตรา 6 ประกอบมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.กสทช.2553 เพื่อมาดำเนินการสรรหาผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายแทนโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศชาติขาดโอกาสในการพัฒนาและบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมในยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยกรรมการฯเดิมควรแสดงสปิริตไม่กลับมาทำหน้าที่อีก และควรพิจารณาลงโทษบุคลากรของตนที่เคยไปเป็นกรรมการสรรหา กสทช. ชุดที่ทำให้ สนช.คว่ำทั้งกระดานนั้นด้วย จึงจะชอบในยุคของการปฏิรูปประเทศนี้ด้วย

ส่วนบุคลากรที่ทำงานใน กสทช.ชุดรักษาการนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา อนุกรรมการ คณะทำงาน รวมทั้งฝ่ายบริหารสำนักงาน ไม่ควรที่จะมาสมัครหรือส่งนอมินีมาสมัครเพื่อเข้ารับการคัดเลือกอีกในรอบใหม่นี้ เพราะจะขาดคุณสมบัติทั้งหมดตั้งแต่ต้นแล้ว หากยังดื้อที่จะสมัครใหม่ สมาคมฯก็จะทำหน้าที่ร้องเรียนหรือสอยในเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่อไป

อนึ่ง ตามที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีมติไม่พิจารณาผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่คณะกรรมการสรรหาได้เสนอรายชื่อมา 14 คนเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมาเนื่องจากมีผู้ถูกเสนอชื่อเกินกว่าครึ่งที่มีปัญหาด้านคุณสมบัติและความประพฤติและมีลักษณะต้องห้ามนั้น

กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความด้อยประสิทธิผลของคณะกรรมการสรรหา กสทช.ชุดที่ผ่านมาว่า ไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละท่านตามที่มาตรา 6 ประกอบมาตรา 7 แห่งพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 บัญญัติ

ดังนั้น เมื่อจะได้มีการสรรหาผู้สมควรได้รับเลือกเป็น กสทช.ชุดใหม่ เพื่อเสนอให้ สนช.พิจารณาเลือกอีกครั้ง ดังนั้นกรรมการสรรหาฯ 6 ใน 7 คนไม่ควรเป็นกรรมการคนเดิม เพราะตามมาตรา 14 แห่ง พรบ.กสทช.2553 จำนวน 6 คนที่มาจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษาในศาลฏีกา ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด กรรมการ ป.ป.ช. กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น กฎหมายกำหนดให้แต่ละหน่วยงานคัดเลือกกันเองใหม่ได้ ส่วนกรรมการสรรหาฯลำดับที่ 7 เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นโดยตำแหน่งจึงต้องละเว้นไว้ แม้ว่าในการประชุมเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร กสทช.รอบที่ผ่านมา ผู้ว่า ธปท.มักจะขอตัวออกมาจากที่ประชุมการรับฟังวิสัยทัศน์ ซึ่งอาจผิดระเบียบก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ