"วิษณุ" เผยรัฐบาลสั่งจับตาธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลสกัดการซื้อเสียงเลือกตั้ง

ข่าวการเมือง Thursday May 24, 2018 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Symposium Thailand 4.0 FINTECH & CRYPTOCURRENCY vs. LAW ENFORCEMENT กล่าวว่า ในความหมายของคริปโตเคอเรนซี่ หมายถึง เงินเสมือนที่สามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยนได้ เปรียบได้กับการใช้เงินหรือบัตรเครดิตซึ่งมีการใช้ในต่างประเทศมาแล้วถึง 20 ปี ส่วนในไทยเริ่มแพร่หลายในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และในขณะนี้ได้รับการยอมรับเปรียบเสมือนเป็นเงินตราจนสามารถทำธุรกรรมได้

ในส่วนของข้อดีของคริปโตเคอเรนซี่ คือ มีความรวดเร็ว ไม่มีผลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรืออัตราดอกเบี้ย ส่วนข้อเสียอาจถูกหลอกลวงได้ง่าย เกิดการทุจริต นำไปสู่การโจรกรรมหรือแฮ็คข้อมูลได้ ทั้งนี้ในประเทศไทยยังไม่พบผู้เสียหาย แต่อาจนำไปสู่การโจรกรรม หรือหลอกลวงได้

นายวิษณุ กล่าวว่า คริปโตเคอเรนซี่เปรียบเสมือนดาบ 2 คม ทั้งประโยชน์และโทษ ซึ่งประโยชน์ถือเป็นระบบการลงทุนที่สร้างสรรค์และเหมาะสำหรับผู้ลงทุนกลุ่มสตาร์ทอัพ ส่วนโทษต้องรู้เท่าทันความเสี่ยง โดยรัฐบาลจะมีกลไกดูแลธุรกรรมชนิดนี้ และจะเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการทุกส่วนได้รู้จักและศึกษาธุรกรรมชนิดนี้มากขึ้น โดยเฉพาะกรมบังคับคดี และอัยการ

นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากต่างประเทศว่า คริปโตเคอเรนซี่เป็นช่องทางการฟอกเงินได้ดีที่สุด มีการเตือนว่าอาจนำไปใช้ในการก่อการร้ายข้ามประเทศและเรื่องยาเสพติด และการใช้สำหรับการซื้อเสียงในการเลือกตั้งของประเทศไทยผ่านรูปแบบบิทคอยน์ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงยุติธรรม กระทรวงต่างประเทศ ไปศึกษารายละเอียดและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจนนำมาสู่การออกพระราชกำหนดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดเก็บภาษีของสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency และในอนาคตยังจำเป็นต้องปรับปรุง พ.ร.ก.ให้ทันสมัยต่อสถานการณ์ และทันต่อเทคโนโลยีประเภทนี้ โดยจะต้องปรับแก้ให้เป็นพระราชบัญญัติที่สมบูรณ์ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ