สนช.ฝืนกระแสต่อต้าน เดินหน้าพิจารณากม.เกือบ 70 ฉบับ 19-21 ธ.ค.

ข่าวการเมือง Monday December 17, 2007 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชาย แสวงการ โฆษกคณะกรรมการประสานงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิป สนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปสนช.มีมติให้กำหนดวันนัดประชุม สนช.ในระหว่างวันที่ 19-21 ธ.ค.นี้เพื่อพิจารณากฎหมายที่ยังค้างอยู่ รวมทั้งสิ้น 69 ฉบับ
ทั้งนี้ ประชุมเห็นว่าระเบียบวาระการประชุมที่บรรจุเข้าสู่การพิจารณาและค้างการพิจารณามาตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.เป็นวาระที่ไม่สามารถถอนออกไปได้ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ส่วนที่หนึ่งซึ่งค้างอยู่ 21 ฉบับ จึงมีมติให้พิจารณาต่อจนถึงวันที่ 21 ธ.ค. ขณะที่ร่างพ.ร.บ. ส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นระเบียบวาระที่ผ่านวาระ 2 ขั้นกรรมาธิการนั้น มีอยู่ 43 ฉบับ และส่วนที่ 3 ที่มีร่างพ.ร.บ. 4-5 ฉบับ
"เวลาไม่เกิน 24.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. จะเป็นวันสุดท้ายในการพิจารณาร่างกฎหมายทุกฉบับ โดยทำการพิจารณาตามลำดับ ไม่มีการถอนออก จะพิจารณาว่าฉบับไหนมีความสำคัญมากสุด" นายสมชาย กล่าว
นายคำนูณ สิทธิสมาน วิป สนช. กล่าวว่า เหตุผลที่ สนช.ชุดนี้จะยังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต่อไป โดยมุ่งหวังจะให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งซึ่งเป็นความแตกต่างจาก สนช.ชุดอื่นนั้น เป็นเพราะจุดประสงค์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องการให้ สนช.ทำงานให้เสร็จสิ้นจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง เมื่อเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สนช.ก็จะทำหน้าที่ ส.ว. จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ว.
"ถ้าหากสมาชิกพร้อมใจกันมาลาออกก็จะเกิดวิกฤติ เพราะการเปิดสภาฯ หลังการเลือกตั้ง จะต้องมีรัฐพิธี มีวุฒิสภาที่แปลงมาจาก สนช. ทำหน้าที่ สว.วันเปิดสภาฯ ไม่เช่นนั้นก็จะเปิดไม่ได้ เพราะการใช้เวลาสรรหาใหม่เพียง 2 เดือน คงจะทำไม่ได้" นายคำนูณ ระบุ
รายงานข่าวระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ที่บรรจุเข้าสู่ที่ประชุมในส่วนที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาในที่ 20-21 ธ.ค.ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร , ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ , ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง, ร่าง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก , ร่าง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย, ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว,
ร่าง พ.ร.บ.กิจการโทรคมนาคม ,ร่าง พ.ร.บ.แปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ, ร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ, ร่าง พ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ