นายกฯ กำชับ 4 รัฐมนตรีพลังประชารัฐทำงานการเมืองอย่ากระทบรัฐบาล

ข่าวการเมือง Tuesday January 8, 2019 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำการทำหน้าที่ของ 4 รัฐมนตรี ระหว่างการทำงานในรัฐบาลและการทำงานทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐว่า อย่าให้กระทบการทำงานในนามของรัฐบาล ส่วนจะทำงานทางการเมืองแล้วทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะขณะนี้ทุกพรรคก็แข่งขันกันในเรื่องของนโนบาย ซึ่งอยากเตือนให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการพิจารณาของแต่ละนโยบาย เพราะอาจทำไม่ได้ทั้งหมด และไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อ พร้อมแนะนำให้ประชาชนติดตามนโยบายของแต่ละพรรคว่า หากได้รับเลือกเข้ามาแล้ว จะสามารถทำได้อย่างที่พูดไว้หรือไม่ หากทำไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไม่ควรไปเลือกอีก

"ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ในการกำกับการทำงานของ 4 รัฐมนตรีมาโดยตลอด ซึ่งให้ทุกคนทำหน้าที่ในส่วนของรัฐบาลให้ดีที่สุด ส่วนการทำงานทางการเมืองนั้น ก็เป็นการทำงานนอกเวลาราชการ และได้มีการลาราชการทุกครั้ง ซึ่งถือเป็นการลาตามสิทธิของแต่ละคน"

ส่วนกรณีที่มีการจับกุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จ.บุรีรัมย์ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามกฎกติกา กฎหมายที่มีอยู่ และต้องดูว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ตนเองได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ให้ไปดูและติดตามทุกพรรค ซึ่งหากไม่ทำผิด ก็ไม่ดำเนินการจับกุม จึงขออย่าไปแบ่งข้าง เพราะหากยังทำเช่นนี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ทุกอย่างขอให้ว่ากันด้วยหลักฐาน

สำหรับประเด็นที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่กำลังมีกระแสความนิยมนั้น นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับว่า นิยมในสิ่งไหน นิยมความขัดแย้งอย่างนั้นหรือ และทำไมต้องสร้างกระแสในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่กล่าวกันขึ้นมาในโซเซียลมีเดีย ซึ่งไม่ทราบว่ามีหลักฐานหรือไม่ ดังนั้นต้องเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบ และมองว่า เป็นแรื่องหนึ่งที่ถูกขยายความ วนเวียนไปมา

นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเรื่องการใช้รถประจำตำแหน่ง ที่ภายหลัง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องมายังรัฐบาล ถึงกรณีที่มีข้าราชการนำรถส่วนกลางไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่งว่า ได้ออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยเห็นว่า หากใครนำรถประจำตำแหน่ง ไปใช้ในการส่วนตัว ถือเป็นความผิดร้ายแรง และต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทั้งไล่ออก ปลดออก จึงขอเตือนไปยังทุกส่วนราชการด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ