(เพิ่มเติม1) เลือกตั้ง'62: 6 พรรคการเมืองลงนามสัตยาบันหยุดยั้งสืบทอดอำนาจ คสช.-ยันรวมคะแนนเสียงได้กว่า 255 เสียงแล้ว

ข่าวการเมือง Wednesday March 27, 2019 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ซึ่งได้รวบรวมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกินกว่า 255 เสียง ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมร่วมลงนามสัตยาบันเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเรียกร้องพรรคการเมืองที่ได้แสดงจุดยืนไว้เข้ามาร่วมกัน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลคะแนนทันที

อย่างไรก็ดี สำหรับพรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วมลงนามสัตยาบันในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้แสดงจุดในการเข้าร่วมการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การร่วมลงนามในสัตยาบันทั้ง 6 พรรคการเมืองนี้เป็นการยืนยันในเจตนารมณ์ ที่จะร่วมกันหยุดยั้งสืบทอดอำนาจจาก คสช. และรักษาระบอบประชาธิปไตยให้แข็งแรง หยุดยั้งวงจรอุบาทว์จากการสืบทอดอำนาจให้ได้ และถือเป็นการทำตามสัญญาประชาคม และทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นพรรคการเมืองในฝั่งประชาธิปไตยที่ได้รับความไว้วางใจ และได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน ได้เลือกผู้แทนเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 255 ที่นั่ง

พร้อมยืนยันว่า จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และทำตามที่ประชาชนคาดหวัง โดยจะทำตามวิธีทางประชาธิปไตย ตามกติกาและมารยาททางการเมือง ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมทางการเมืองที่สร้างสรรค์

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เรียกร้องไปยังพรรคการเมืองอื่นที่เคยประกาศเจตนารมณ์ก่อนการเลือกตั้งว่า จะปกป้องประชาธิปไตย ให้มาร่วมกันสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง และร่วมกันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ซึ่งหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าเชิญชวนพรรคการเมืองอื่นๆ ต่อไป แต่คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ระบุว่าเป็นพรรคการเมืองใดบ้าง หลังจากถูกตั้งคำถามถึงพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ โดยยังมุ่งหวังให้บ้านเมืองเกิดความสงบ มีเศรษฐกิจที่ดี

"เราหวังว่า จะมีพรรคการเมืองอื่นที่เห็นกับบ้านเมือง และประชาชนที่ต้องการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย หันหน้าเข้ามาร่วมมือกันอีก"คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ

อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันนี้ ตัวแทนจาก 6 พรรคการเมือง จะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลการนับคะแนน 100% และจะฟังคำชี้แจงต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องการนับคะแนน การซื้อเสียง หรือการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งมุ่งหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนและต่างชาติ

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อคม.) กล่าวถึงจุดยืน 5 ข้อของพรรคที่เข้าร่วมลงนามในสัตยาบันในครั้งนี้ว่า 1. พรรคอนาคตใหม่จะร่วมกับพรรคการเมืองที่ลงนามในสัตยาบันสะกัดกั้นการสืบทอดอำนาจของคสช.ให้ถึงที่สุด แม้หนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก 2. เชิญชวนพรรคการเมืองที่เคยทำสัญญาประชาคมไว้ในระหว่างหาเสียงว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้มาร่วมสร้างรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือร่วมรัฐบาลกันก็ตาม

3. พรรคฯ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากพรรคที่ได้ ส.ส.เป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง โดยขอสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุดในขณะนี้ 4. พรรคฯ เรียกร้องให้พรรคการเมืองที่พยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า การดึงดันที่จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยและใช้กลไก ส.ว.เป็นตัวสนับสนุน จะรังแต่ให้เกิดความวุ่นวายต่อสังคม และทำให้สังคมเดินไปสู่ทางตัน การพัฒนาการเมืองของไทยเป็นไปได้ยาก 5. ขอเรียกร้องให้ กกต.ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และเปิดเผยผลการนับคะแนนเลือกตั้งทุกหน่วยในประเทศไทย เพื่อให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ อาจกลายเป็นงูเห่า สนับสนุนพรรคการเมืองอื่นในการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายธนาธร ชี้แจงว่า ผู้สมัครของพรรคมาจากผู้ที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ไม่ได้มาจากการดูด ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่น จึงเชื่อว่าทุกคนยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค อย่างไรก็ตาม พรรคจะเรียกประชุมว่าที่ ส.ส.ของพรรค ที่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้งกว่า 80 คน เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกันต่อไป

"เราจะมีการจัดประชุมใหญ่ในวันเสาร์หรืออาทิตย์นี้ ซึ่งจะพูดคุยกับว่าที่ส.ส.ทุกคน เพื่อให้มั่นใจว่า ยังคงยึดโยงกับอุดมการณ์ ทนต่อแรงดูดอีกครั้งหลังเลือกตั้ง" นายธนาธร ระบุ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า อยากเห็นรัฐบาลที่จัดตั้งต่อไปควรเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ในสภา 251 เสียงขึ้นไป เพราะการบริหารประเทศหากใครคิดจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยอาศัยเสียงวุฒิสภาเข้ามา เป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ หากตั้งรัฐบาลแบบนี้ เชื่อว่าหุ้นจะตกระนาว นักลงทุนคงไม่ต้องการเข้ามาเสี่ยงกับรัฐบาลที่อยู่บนเส้นด้าย

นายนิคม บุษวิเศษ หัวหน้าพรรคพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า แม้จะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ยึดมั่นตามกติกาสากล โดยฝากไปยังพรรคที่ยังลังเลอยู่ ให้สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมเชื่อว่าพรรคฝั่งประชาธิปไตยน่าจะมีคะแนนมากกว่านี้

"เรามี 255 เสียง เชื่อว่ามีการนับคะแนนเสร็จสิ้นจะมีมากกว่านี้ คงไม่ลดลง ฝากไปยังกกต. ด้วย"นายนิคมกล่าว

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด

พร้อมทั้งเปิดเผยจำนวน ส.ส.ที่รวบรวมได้ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 137 เสียง, พรรคอนาคตใหม่ 88 เสียง, พรรคเสรีรวมไทย 12 เสียง, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง, พรรคประชาชาติ 7 เสียง, พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง และพรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง ซึ่งแม้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณื หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะไม่ได้มาร่วมลงนามในสัตยาบันในครั้งนี้ แต่ได้รับคำยืนยันจากหัวหน้าพรรคว่าจะร่วมทำงานกับพรรคจากฝั่งประชาธิปไตย

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการทันที เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่ต้องเก็บ 5% ไว้ เพราะหากมีปัญหาที่จุดใดก็มีกฏหมายที่สามารถดำเนินการภายหลังได้ โดยจะไม่ยินยอมต่อการสืบทอดอำนาจอย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ