เลือกตั้ง'62: อนาคตใหม่เรียกร้องปิดสวิทช์ ส.ว.ไม่ให้มีโอกาสเลือกนายกฯ,เตรียมยื่นศาลรธน.ค้านผลปาร์ตี้ลิสต์

ข่าวการเมือง Wednesday May 8, 2019 20:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันกดดันให้มีการปิดสวิทช์ ส.ว.ไม่ให้มีส่วนในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพร้อมจะเดินสายรณรงค์ทุกพรรคการเมืองที่ไม่ได้มีนโยบายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเปิดประตูให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้

นายธนาธร กล่าวว่า ขณะนี้พรรคการเมืองที่ประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีเพียง 3 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ 115 เสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง และพรรคประชาชนปฏิรูป 1 เสียง ซึ่งมีเสียง ส.ส.รวมกัน 121 เสียง จากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส.ล่าสุดรวม 498 คน ดังนั้น หากเสียงของพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ รวมกับ ส.ว.250 เสียงก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนเสียงสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด

ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จึงขอเรียกร้องให้ประชาชน สื่อมวลชน และสังคม ร่วมกันกดดันเพื่อปิดสวิทช์ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งและไม่ได้มาจากเสียงของประชาชน ไม่ให้มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี และพร้อมจะเดินสายไปพบกับทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเพื่อรณรงค์ยับยั้งกลไกที่ไม่ได้มาจากประชาชน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยที่เคยประกาศว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งถือเป็นการบันไดก้าวแรกที่จะเดินทางกลับไปสู่การเป็นประชาธิปไตย

"อยากเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองมีส่วนทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่นำไปสู่ทางตันด้วยการยกมือรับรองนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อจากเสียงข้างมาก ก็จะสามารถปิดสวิทช์ ส.ว.ได้"นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ยังเชื่อมั่นว่า 7 พรรคการเมืองที่เคยลงสัตยาบันร่วมกันที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. จะยังคงเหนียวแน่นที่จะเดินหน้าตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งการรวมตัวกัน ไม่ได้เป็นการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นการร่วมอุดมการณ์เดียวกัน

ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การที่ กกต.ใข้สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์โดยใช้ฐาน 27 พรรคการเมือง ส่งผลทำให้คะแนนของพรรคอนาคตใหม่หายไปถึง 5.5 แสนคะแนน และทำให้ส.ส.ที่พรรคคาดว่าจะได้หายไปถึง 7 ที่นั่ง และหากรวมทุกคะแนนจะทำให้ 4 พรรคการเมืองที่ได้รับผลกระทบ ทั้งพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย อนาคตใหม่

ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ ดำเนินการด้วยการยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้เสนอเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 210 (2) ขอให้วินิจฉัยถึงการใช้อำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญว่าขัดต่อรัฐธรมนูญหรือไม่ และจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ที่ระบุว่าบุคคลใดถูกละเมิดสิทธิสามารถฟ้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยผ่านช่องทางของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรืออาจร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคจะใช้ทุกช่องทางที่มี

นายปิยบุตร ยังเชื่อว่า การที่ กกต.ยืนยันสถานะของนายธนาธร ให้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แล้วนั้น ไม่ได้เป็นการตบหัวแล้วลูบหลัง แต่เป็นเพราะเมื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแล้ว ไม่มีช่องทางใดที่จะสามารถสอยหรือแจกใบส้มนายธนาธรได้ เนื่องจากถือว่าหมดเวลาตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว และกรณีของนายธนาธร ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้งที่จะแจกใบส้มได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ