(เพิ่มเติม) 10 พรรคเล็กนัดหารือทวงเก้าอี้ รมต.ล่มมาแค่ 2 ขู่พร้อมเป็นฝ่ายค้าน-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ข่าวการเมือง Monday June 10, 2019 13:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การนัดหารือของ 10 พรรคการเมืองขนาดเล็กเพื่อทวงเก้าอี้รัฐมนตรีช่วง 12.00 น.วันนี้ มีพรรคเข้ามาร่วมประชมกันเพียง 2 พรรค คือ พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคประชาธรรมไทย ขณะที่แกนนำประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้านหากไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง และมีข้อมูลที่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การจัดสรรโควตารัฐมนตรีนั้นเบื้องต้นกลุ่มพรรคเล็กจะได้ตำแหน่งบริหาร 2 ตำแหน่ง แต่ปรากฎว่ามีการปล่อยข่าวจะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกันใหม่ ซึ่งกลุ่มพรรคเล็กจะได้เพียงตำแหน่งกรรมาธิการในคณะต่างๆ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องปกติของ ส.ส.ทุกคนที่จะมีตำแหน่ง กมธ. อย่างน้อย 1-2 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ หากกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ตำแหน่งบริหารในรัฐบาล จะส่งผลให้ไม่สามารถผลักดันนโยบายที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งแกนนำผู้จัดตั้งรัฐบาลก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 10 พรรคเล็กด้วยเช่นกัน หากบอกให้เสียสละ ตนเองมองว่า แกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถรวบรวมคนจากหลายพรรคมารวมกันนั้นต้องเป็นคนเสียสละมากกว่า

"หากกลุ่มพรรคเล็กมีฝ่ายบริหาร 2 ตำแหน่ง ก็จะสามารถตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือบอร์ดรัฐวิสาหกิจเพื่อขับเคลื่อนโยบายได้ แต่หากไม่มีตำแหน่ง ก็ไม่มีอะไรเป็นตัวชี้วัดว่าเราเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส่วนตัวก็พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาลนี้ และตรวจสอบย้อนหลัง สำหรับการทำงานฝ่ายค้านก็พร้อมร่วมกับพรรคเพื่อไทยหากเป็นเรื่องที่ข้อมูลตรงกัน ผมก็พร้อมจะเปิดเผยข้อมูลเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ " นายมงคลกิตติ์ กล่าว

พร้อมระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความน้อยใจ แต่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มพรรคเล็ก ซึ่งจะต้องได้รับจัดสรร 2 ตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อตกลงเดิมที่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น

"ไม่ได้น้อยใจ แต่การทำงานร่วมกันต้องชัดเจน ตำแหน่งหลักต้องอยู่ในกลุ่ม เราเสียสละเปิดสวิทช์ประเทศให้ท่านบริหารงานแล้ว ท่านต้องเสียสละบ้าง ถ้าควบคุมเสียงในสภาไม่ได้ ก็บริหารประเทศไม่ได้" นายมงคลกิตติ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเวลาที่ภายในกลุ่มจะเจรจากัน แต่ส่วนตัวคิดว่าอยู่ตรงไหนก็ได้ที่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้สูงสุด และไม่จำเป็นต้องได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี หากเป็นรัฐมนตรีถ้าใครทำผิดก็จะทักท้วง ไม่ไปพินอบพิเทา เพราะถ้าอยู่ใน ครม.แล้วยกมือเรื่องผิดๆ ก็มีสิทธิติดคุกได้

"เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน มันอยู่ที่ความจริงใจ ขึ้นอยู่กับ facter...ภายในกลุ่มก็จะเจรจากันว่าใครจะเป็นอะไร ไม่จำเป็นว่าผมต้องเป็นรัฐมนตรี แค่รักษาผลประโยชน์ของกลุ่ม" นายมงคลกิตติ์ กล่าว

พร้อมยอมรับว่า เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ค่อยมี เพราะเห็นว่าอย่างน้อยควรต้องมี ส.ส.มากกว่าฝ่ายค้านราว 40 เสียงจึงจะปลอดภัย

นายพิเชฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า การนัดหารือในครั้งนี้ไม่ใช่การต่อรองโควต้ารัฐมนตรี แต่เป็นการทวงถามสิ่งที่เคยพูดคุยกันไว้ก่อนร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐระบุว่าจะนำนโยบายแต่ละพรรคไปสานต่อ ซึ่งบุคลากรของ 10 พรรคมีความเท่าเทียมกันหมด ดังนั้นควรมีตัวแทนของ 10 พรรคเข้าไปเป็นรัฐมนตรีด้วย

อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้รับการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน และถ้าหากสุดท้าย 10 พรรคการเมืองจะโดดเดี่ยว เหลือแค่ 2 พรรคก็พร้อมยอมรับมติ ทั้งนี้การที่มีข้อเสนอดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนยอมรับในรัฐบาลชุดนี้ และให้เกิดมิติใหม่ทางการเมืองไทย ควรให้ฝ่ายค้านได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการคณะสำคัญๆ อาทิ สาธารณสุข มหาดไทย คมนาคม กลาโหม

สำหรับกลุ่ม 10 พรรคการเมืองขนาดเล็ก ประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคประชานิยม, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลเมืองไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ พรรคพลังธรรมใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ