(เพิ่มเติม) "ภูมิธรรม"ประกาศวางมือจากตำแหน่งเลขาฯ เพื่อไทยเปิดทางคนรุ่นใหม่สานต่อ ยันสนับสนุนพรรคต่อไป

ข่าวการเมือง Wednesday July 3, 2019 15:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการ พรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมวางมือจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพื่อให้คนรุ่นหลังเข้ามาสานต่อภารกิจพรรค ภายหลังจากที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรค

นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดปัจจุบัน ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ของตน เพื่อให้พรรคจัดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เชิญนักการเมืองของพรรคและสมาชิกพรรรค เข้าหารือและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อมาทำหน้าที่แบกรับภารกิจในสถานการณ์การเมืองใหม่ช่วงปัจจุบัน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ชุดนี้ได้แบกรับภารกิจต่อเนื่องในการนำพาพรรคเพื่อไทย ยืนหยัดทำหน้าที่ของตน ในการรักษาอุดมการณ์ประชาธิปไตย ประคับประคองพรรค ในช่วงวิกฤติประเทศ ที่อยู่ภายใต้การบริหารและปกครอง ของคณะรัฐประหารต่อเนื่องตลอดมา ตราบจนกระทั่ง เกิดการผ่อนคลาย สถานการณ์ ทางการเมืองครั้งใหม่ ให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายใต้รัฐธรรมนูญและกติกาใหม่ ที่รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อำนวยการให้มีการจัดทำขึ้น

และคณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ได้แบกรับภารกิจต่อเนื่องอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่หลัง คสช. ประกาศจะคืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อ 24 มีนาคม 2562 และได้นำพรรคเพื่อไทย ฝ่าอุปสรรคจนได้รับชัยชนะเป็นพรรคการเมือที่มีเสียงข้างมากที่สุดเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ในสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า แต่ด้วยกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงไปจาก กติกาทางการเมืองที่เป็นปกติ แบบเดิมๆ ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งได้ที่นั่ง ส.ส. เป็นจำนวนมากที่สุด แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศได้ และ ไม่มีคณะผู้บริหารพรรคที่ลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อได้เข้าสภาแม้แต่คนเดียว"

หลังการเลือกตั้งครั้งนี้เสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทยได้ร่วมมือกับพรรคการเมืองฟากฝ่ายประชาธิปไตย 7พรรคการเมือง จัดตั้งแนวร่วมฝ่ายค้าน ของ 7 พรรคการเมืองขึ้นเพื่อแบกรับภารกิจใหม่ เป็นพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่ทางการเมืองต่อจากนี้ไป นับเป็นการยุติบทบาท ของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดปัจจุบันลงอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ วันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ภารกิจต่อจากนี้ไป เป็นภาระของคนรุ่นหลังที่จะเข้ามาแบกรับภารกิจใหม่ในสถานการณ์ทางการเมืองใหม่ที่กำลังจะดำเนินต่อไป

"ส่วนตัวผม ไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง วันนี้ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนเอือมระอากับการต่อรองตำแหน่งมากพอแล้ว เพราะผมเชื่อเสมอว่า……ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดหรือ อยู่ในสถานะใด บทบาทใด……ผมก็ สามารถที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชนได้เสมอ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง"นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเลขาธิการพรรคต่อไปแล้ว แต่ไม่ได้ไปไหน ยังคงสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยต่อไป โดยจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆในกรรมการบริหารพรรค ไม่คิดจะย้ายพรรค ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำรงอยู่ ถือว่าเราผ่านอะไรมามาก ตอนนี้ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจไปช่วยเป็นฝ่ายสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้านของพรรค

"ความเป็นนักการเมืองที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็เป็นและทำงานได้ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง ไม่อยากเห็นการแย่งชิงอำนาจ การเมืองสมัยใหม่ควรใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นอยู่ สร้างประโยชน์ มนุษย์เราอาจมีกิเลส อาจจะอยากต้องการตำแหน่ง ผมไม่ต้องมีตำแหน่งก็ทำงานได้ ถ้ายังมีเรี่ยวแรงก็ยังทำงานต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไร ไม่ว่าเขาจะอยากใช้เราหรือไม่ใช้เราก็ตาม แต่ผมคิดว่ายังสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยได้"นายภูมิธรรม กล่าว

อย่างไรก็ดี เพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์พิเศษต้องระมัดระวังทางการเมืองอย่างสูง ถูกยุบมา 2-3 ครั้งแล้ว ที่เราจะทำคือ ทำอย่างไรที่รักษากฎกติกาทางการเมืองและอยู่ด้วยความปลอดภัยด้วย ข้อบังคับพรรคที่สามารถมีกรรมการบริหารพรรคได้ถึง 29 คน ถือว่าไม่มาก ไม่น้อย ส่วนตัวอยากให้กรรมการบริหารเป็นส่วนผสมกันระหว่าง ส.ส. นักการเมืองที่มีประสบการณ์ นักการเมืองคนรุ่นใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคชุดใหม่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร

ในส่วนของกระแสข่าวนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายสมพงษ์ ก็เป็นคนหนึ่งที่มีสมาชิกเสนอ ซึ่งในวันที่ 12 ก.ค.จะรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เช่นเดียวกับตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ต้องผ่านกระบวนการให้บุคลากรในพรรคเลือก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ