ฝ่ายค้านวอล์คเอาท์ที่ประชุม กมธ.โอนงบฯ เหตุไม่พอใจกลาโหมเรียกเอกสารสำคัญคืน

ข่าวการเมือง Tuesday June 9, 2020 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากรัฐสภา แจ้งว่า การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย จากส่วนราชการกลับเข้าสู่งบกลาง เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ กมธ.จากพรรคฝ่ายค้านได้วอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุมมาแถลงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานเนื่องจากถูกเรียกเอกสารสำคัญคืน และไม่สามารถพิจารณาปรับลดงบประมาณจากวงเงินที่ตั้งไว้ 88,000 หมื่นล้านบาทได้

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รองประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า การพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายจากหน่วยงานต่างๆ ครั้งนี้มีการตัดงบหลายโครงการที่มีความจำเป็นมาไว้ที่งบกลาง โดยไม่สามารถนำงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินมาทดแทนได้ ประกอบกับงบประมาณที่มีการโอนกลับมาให้รัฐบาลส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นผลกระโยชน์ของคนเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่ยังมีปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งฟื้นฟู ประกอบกับในรายละเอียดงบประมาณก็ไม่ชัดเจน มีเอกสารเพียง 2 แผ่นที่มาชี้แจงต่อ กมธ.ฯ จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังความเห็นปรับโอนงบประมาณจากโครงการที่จำเป็น

โดยเฉพาะการพิจารณางบประมาณที่มีการโอนกลับจากกระทรวงกลาโหมกว่า 17,000 หมื่นล้านบาทนั้น ในระหว่างการชี้แจงจากผู้แทนกระทรวงกลาโหมให้เอกสารที่ระบุว่าเป็นเอกสารลับ และระหว่างที่พิจารณาไม่นานก็มีนายทหารมาเดินเก็บเอกสารกลับคืนทั้งหมด จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของ กมธ.ฯ เพราะข้อมูลเหล่านี้มีความจำเป็นและไม่น่าจะอยู่ในชั้นความลับ เพราะเป็นงบประมาณที่ถูกปรับโอน ประกอบกับเป็นสิทธิของ กมธ.ฯ ตามรัฐธรรมนูญที่สามารถเรียกข้อมูลดังกล่าวได้ แต่ประธาน กมธ.ฯ ก็ไม่อนุญาตให้เรียกเอกสารจากกระทรวงกลาโหมอีก ถือเป็นการปิดกั้นการทำหน้าที่อย่างมาก

ด้าน น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การพิจารณางบของกระทรวงกลาโหมไม่มีรายละเอียดเปิดเผยชัดเจน จึงมีความรู้สึกว่าเป็นงบประมาณที่ไม่สามารถแตะต้องได้ มีการอ้างว่าเป็นชั้นความลับมาก ต้องเซ็นลายมือชื่อทุกครั้งที่รับ และเก็บเอกสารคืนในระยะเวลาที่รวดเร็ว ทำให้ กมธ.ไม่สามารถพิจารณาได้ครบถ้วน

รวมถึงข้อมูลการโอนงบประมาณส่วนอื่นๆ ก็ไม่มีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนเช่นกัน ทำให้ต้องมีหนังสือถึงประธาน กมธ.ฯ เพื่อขอให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาชี้แจงรายละเอียดด้วยตัวเองแทน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากประธาน กมธ.ฯ

ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การให้เจ้าหน้าที่ทหารชั้นผู้น้อยมาเรียกเก็บเอกสารกลางที่ประชุมเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยวิธีปฏิบัติ จึงฝากติงถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการพิจารณาของ กมธ.จะต้องเขียนรายงานข้อสังเกตจำเป็นต้องมีเอกสารรายละเอียดมาประกอบการพิจารณา เพื่อดูว่าเหตุใดหน่วยรับงบประมาณยอมตัดงบประมาณคืนกลับมาที่งบกลาง ทั้งที่งบประมาณบางส่วนก็มีความจำเป็น โดยเฉพาะงบด้านบุคลากรทางการแพทย์ งบประมาณด้านสาธารณสุข จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ในฐานะผู้ที่จะนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ แต่ใน กมธ.ฯ พยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่าการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณปกติจะไม่มีการเชิญคณะรัฐมนตรีมาชี้แจง ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายปกติ และเพิ่งมีการตั้ง กมธ.พิจารณาเป็นฉบับแรก เพราะ พ.ร.บ.โอนงบประมาณ 4 ฉบับที่ผ่านมาผ่านการลงมติโดย สนช. ในยุคเผด็จการ

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากปัญหาทั้งหมดจึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ กมธ.ฯ ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นต้องรอว่า กระทรวงกลาโหมจะมีการส่งเอกสารมาให้ กมธ.ฯ อีกครั้งหรือไม่ หรือนายกรัฐมนตรีจะมาชี้แจงด้วยตัวเองได้หรือไม่ เบื้องต้นได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ข้อสรุปว่ายังไม่มีการบรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาลงมติในวาระ 2 และ 3 ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป และยังไม่มีความชัดเจนหลายเรื่อง แต่ไม่อยากให้เกินสัปดาห์หน้าเพราะเป็นงบประมาณที่มีความจำเป็น

ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถปรับลดประมาณในวงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาทได้เพราะอาจขัดต่อหลักการของกฎหมายนั้น นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อมีการสงวนความเห็นการแปรญัตติแล้วก็จะขอไปอภิปรายความเห็นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ