ส.ว.แฉนักการเมืองหนุนหลังม็อบปลดแอกจี้รัฐใช้กม.จัดการแนะเปิดสภาฟังความเห็น

ข่าวการเมือง Tuesday August 18, 2020 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวในที่ประชุมวุฒิสภาก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวันนี้ว่า รู้สึกหนักใจเมื่อทราบข่าวม็อบประชาชนปลดแอกมีพรรคการเมืองเข้ามาเทคโอเวอร์ เพราะมีมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมเวที การข่าวระบุว่าในการชุมนุมมี ส.ส.นำประชาชนจากย่านสายไหม มีนบุรี บางซื่อ มาร่วมชุมนุมด้วย พร้อมสนับสนุนรถห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศ 4 คัน รถน้ำและเครื่องดื่มแบบบาร์ พร้อมเวทีแสง สี เสียง

ขณะที่อีกพรรคการเมืองใช้รถบัสรับพนักงานจากโรงงาน 2,000 คนมาร่วมชุมนุม โดยมาส่งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ และบริเวณเสาชิงช้า รวมถึงการนำคนจากย่านมีนบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี อีก 3,000 คน มาร่วมชุมนุม นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุทะเลาะกันของการ์ดและชายชุดดำ ดังนั้นขอให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการผู้ละเมิดกฎหมาย

นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนการจัดเวทีที่รัฐบาลมอบให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รับฟังความเห็นจากนักศึกษานั้น ขอให้จัดเวทีโดยมีตัวแทนอธิการบดีสถาบันการศึกษา ตัวแทนประธานนิสิต นักศึกษา จำนวน 400 คน มาประชุมที่รัฐสภา ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พร้อมตั้งโจทย์ เช่น จะแก้รัฐธรรมนูญมาตราใด การแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การคุกคามสิทธิเสรีภาพจะทำอย่างไร รวมถึงข้อเสนอยุบสภาจะเดินต่ออย่างไร

"ผู้ใหญ่ควรแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหากับเด็ก และให้เด็กคิด อย่ากังวลว่าจะครอบงำ แต่ขณะนี้ครูผู้ปกครองปรับตัวไม่ทัน ซึ่งผมมองว่าการชูสามนิ้วระหว่างร้องเพลงชาติไม่เหมาะสม เพราะการเข้าแถวคือ การสร้างวินัย ส่วนการผูกโบว์สีขาวนั้นให้ทำได้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของเยาวชนมีความพยายามทำให้เหมือนกับการชุมนุมที่ฮ่องกง" นายสมชาย กล่าว

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.กล่าวว่า แม้ประเทศไทยมีผลงานที่ทั่วโลกยอมรับในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 แต่คนไทยกลับหาเหตุมาชุมนุม ทั้งที่ควรช่วยกันแก้ปัญหา การชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุม รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้อยู่เบื้องหลังใน 10 ประเด็นจาบจ้วงสถาบัน ขณะที่ข้อเรียกร้อง 3 ข้อหลักของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ต้องอาศัยเสียง ส.ว. 84 คน จาก 250 คน ในวาระ 1 และ 3 แต่กลับจะไม่ให้ ส.ว.มีส่วนร่วม

นพ.เจตน์ กล่าวว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ขัดข้องเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขประเด็นใด ส.ว.ไม่ยึดติดตำแหน่ง และเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญทำได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ขอแก้ไขมาตรา 291 แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติมาแล้ว ถ้าจะแก้ไขมาตรา 291 เพื่อยกร่างใหม่ต้องกลับไปถามประชาชนก่อน จึงเสนอให้รัฐบาลอดทนฟังความเห็นรอบด้านของทุกภาคส่วนในการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมพูดคุยกัน ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาม็อบเด็กนักเรียนที่เห็นว่าไม่ปกติ และเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ