(เพิ่มเติม) นายกฯ ขออย่าโจมตีเรื่องการเมือง ยันพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ข่าวการเมือง Wednesday January 27, 2021 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวผ่าน PM PODCAST ระบุว่า วันนี้ได้เห็นข่าวสารบ้านเมืองที่ค่อนข้างหนักไปทางการเมือง ซึ่งเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติที่มีความจำเป็นต้องร่วมมือกันว่าจะทำอย่างไรจะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ประชาชนมีความสุข มีทางออกให้กับประเทศชาติ

ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังมีเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นทุกปัญหาที่ต้องแก้ไข รัฐบาลจะพยายามอย่างยิ่งยวด ภายใต้กฏหมาย กฏระเบียบและกระบวนการต่างๆ ที่มีอยู่ พร้อมกับขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฏหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสและเป็นธรรม

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น และหวังที่จะเห็นทุกคนรักและสามัคคีกัน เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ความก้าวหน้า ไปสู่ความหวังในสิ่งที่เป็นอนาคตที่ดีกว่าวันนี้ และเราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วย ซึ่งรัฐบาลยินดีที่จะหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็ขอฝากทุกคนไว้ด้วย

นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอดทนต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ และเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมขอให้ทุกคนร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค และขอโทษหากดำเนินการทุกอย่างไม่ทันใจ แต่จะเร่งรัดให้มากที่สุด ซึ่งตนเองรับฟังข้อเรียกร้องจากทุกกลุ่ม หากเรื่องใดดำเนินการได้ก็จะดำเนินการทันที

ทั้งนี้ได้ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในการลดส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคม รวมถึงการชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายมาตรการ เช่น ขยายเวลาการยื่นแบบการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 และการลดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรอบปี 2564 รวมถึงการเตรียมช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีฐานข้อมูลในการลงทะเบียนโครงการเราชนะที่จะเริ่มดำเนินการ 29 ม.ค.นี้ โดยยืนยันจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า คนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องฉีด โดยขอให้ประชาชนคลายกังวลเรื่องคุณภาพของวัคซีน เพราะรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด วัคซีนดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจาก อย.โดยจะฉีดวัคซีนในระยะแรกจำนวน 19 ล้านคน แบ่งเป็น บุคลากรทางการแพทย์ 1.7 ล้านคน ผู้มีโรคประจำตัว 6.1 ล้านคน ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ล้านคน เจ้าหน้าที่ควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย 1.5 หมื่นคน

โดยวัคซีนล็อตแรกจำนวน 5 หมื่นโดสจะเข้ามาในเร็วๆนี้ และจะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.นี้ ส่วนระยะที่สองจะเริ่มในเดือน พ.ค.64 ขึ้นอยู่กับวัคซีนจะทยอยเข้ามาได้มากน้อยเพียงใด โดยส่วนนี้จะครอบคลุมประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงลำดับถัดไป และจะมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้ดีที่สุด ซึ่งไทยถือเป็นฐานการผลิตวัคซีนของอาเซียน เชื่อว่าจะมีเพียงพอต่อความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ