กระทรวงกลาโหมสหรัฐแจ้งสภาคองเกรสว่า สหรัฐอาจจะขายขีปณาวุธ ยานพาหนะหุ้มเกราะ และเครื่องบินบรรทุกสินค้า มูลค่ารวม 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ 4 ประเทศในตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และ ดร.คอนโดลิสซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ให้การสนับสนุนโครงการขายอาวุธจำนวนมากให้กับประเทศในตะวันออกกลางเพื่อรับมือกับอิหร่าน โดยประเทศที่ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุด คือ ซาอุดิอาระเบีย ที่ต้องการซื้อยานหุ้มเกราะขนาดเบาจำนวน 61 คัน รถฮัมวีพร้อมปืน 50 คัน ปืนกลและอุปกรณ์ช่วยการมองเห็นในเวลากลางคืน รวมทั้งหมด 631 ล้านดอลลาร์
"อาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยให้ซาอุดิอาระเบียรับมือกับการคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น" สำนักงานความร่วมมือว่าด้วยความมั่นคงด้านกลาโหมของสหรัฐ (DSCA) กล่าว
ด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้องการจรวดอากาศสู่พื้น "เฮลไฟร์ 2 ลองโบว์" 900 ลูก และหัวรบชนิดแตกในอากาศจำนวน 300 ลูก รวมมูลค่า 428 ล้านดอลลาร์ เพื่อการป้องกันชายฝั่งและภาคพื้นดิน และลดการพึ่งพากองกำลังสหรัฐ
อียิปต์ต้องการจรวดต่อสู้อากาศยาน "สติงเกอร์ รุ่น 1" จำนวน 164 ลูก พร้อมเครื่องยิงอเวนเจอร์จำนวน 25 ชุด มูลค่า 83 ล้านดอลลาร์ โดยจรวดชุดนี้จะถูกติดตั้งบนรถเพื่อใช้เป็นฐานยิงเคลื่อนที่สำหรับป้องกันภัยทางอากาศ
ด้านคูเวตต้องการอัพเกรดเครื่องบิน รุ่นแอล-100-30 จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับเครื่องบิน ซี-130 โดยมีมูลค่ารวม 250 ล้านดอลลาร์ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]