นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมขอให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมรัฐบาลรักษาองค์ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีวุฒิภาวะในฐานะผู้นำประเทศ ก็อยากให้ส.ส.ทุกคนเข้าร่วมองค์ประชุม
ส่วนในการประชุมจะมีเกมให้นับองค์ประชุมเพื่อหักหน้านายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มีและรัฐบาลก็รับผิดชอบเรื่องสำคัญแบบนี้ โดยรัฐบาลจะรับผิดชอบองค์ประชุมและวุฒิภาวะในการทำหน้าที่ ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าใครจะนับองค์ประชุมหรือไม่
นายนิโรธ กล่าวถึงเรื่ององค์ประชุมซึ่งที่ผ่านมาสภาฯ ล่มบ่อยครั้งว่า เรื่ององค์ประชุม แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ เมื่อสภาฯ ต้องการองค์ประชุมในการลงมติ ประธานจะจัดระเบียบวาระไว้ในวันพุธ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็จะทราบ ส่วนวันพฤหัสที่มีวาระพิเศษจะอยู่ในระเบียบวาระที่ไม่ต้องการใช้องค์ประชุม คือเรื่องที่แจ้งให้ทราบต่างๆ จึงคิดว่าฝ่ายค้านสับสนในการทำหน้าที่
"เมื่อไม่ต้องใช้องค์ประชุม ผู้แทนก็ทราบ และเห็นว่าสนใจเรื่องใดก็นั่งฟัง หรือถ้าไม่สนใจหรือคิดว่ารู้แล้ว หรือจะไปอ่านข้อมูลทีหลังได้ก็จะไปทำงานที่กำลังติดพันอยู่ เช่น กรรมาธิการ หรือไปติดตามกฎหมายบางเรื่อง สมาชิกก็ไปทำงานในส่วนตรงนั้น อันนี้เป็นวาระที่ไม่ต้องใช้องค์ประชุม ฝ่ายค้านก็สับสนในเรื่องการขอนับองค์ประชุม เพราะไม่ต้องใช้องค์ประชุม ไม่ต้องลงมติ จะนับองค์ประชุมไปเพื่ออะไร เรียกว่าทำงานแบบสับสน มั่วไปหมดแล้ว" นายนิโรธ กล่าวส่วนกระแสข่าวว่า พรรคเศรษฐกิจไทยจะขอร่วมอภิปรายรัฐบาลด้วยนั้น นายนิโรธ ระบุว่า ตนเองไม่ได้ข่าว แต่ได้ยินว่า นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย จะมาเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ทั้งนี้สมาชิกทุกคนมีสิทธิในการอภิปราย
นายนิโรธ ยังกล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเลื่อนประชุมใหญ่สามัญประจำปีจากเดือนเมษายนเป็นเดือนมีนาคม โดยมีสาเหตุจากสถานการณ์ในพรรคว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนหรือไม่ เพราะการประชุมใหญ่จะต้องจัดขึ้น หากจำไม่ผิดจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนเมษายน ซึ่งสามารถจัดได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน