นายกฯ โต้ฝ่ายค้านปมพลังงาน-จัดซื้อยุทโธปกรณ์ ร่ายยาวผลงาน 8 ปี ภูมิใจสิ่งที่ทำ

ข่าวการเมือง Friday July 22, 2022 20:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นการแก้ปัญหาพลังงานว่า การตัดสินต่างๆ มีการหารือร่วมกันไม่ได้มาจากคำสั่งของตน พร้อมทั้งยืนยันว่า การผลิตก๊าซจาก 2 แหล่งทั้งเอราวัณ และบงกช ยังคงผลิตต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดผลิตแต่อย่างใด แต่เนื่องจากหมดสัญญากับบริษัทต่างประเทศ ก็ได้มีการเปิดประมูล และเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต
สำหรับค่าการกลั่น เป็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามตลาด ซึ่งวันนี้ราคาน้ำมันก็เริ่มลดลง ส่วนการขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ยังคงดำเนินการอยู่ และทางปตท.ก็จะสนับสนุนส่วนหนึ่งแต่โรงกลั่นต่างประเทศยังไม่พร้อม และหา กจะให้สั่งโรงกลั่นต้องไปดูข้อกฏหมายด้วย เพราะเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อการย้ายฐานการลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การปลดประจำการเครื่องบินขับไล่โจมตีแทน F16 และ F5 ที่เกินอายุการใช้งานว่า เนื่องจากเครื่องบินทั้งหมดจะใช้งานได้ถึงปี 2575 จึงต้องวางแผนเป็น 3 ระยะรวม 12 เครื่อง ครั้งละ 4 เครื่อง และต้องจัดหาถึง 10 ปี ถึงจะครบความต้องการด้านยุทธการ สิ่งสำคัญต้องมองศักยภาพด้านสงครามด้วย และยืนยันว่า ถ้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศได้ ก็ทำให้เกิดความเชื่อมั่น เพราะการแข่งขันด้านศักยภาพป้องกันประเทศยังมีสูงอยู่
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่า อาจจะแพงเกินไป นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า คงไม่นำเครื่องบินขับไล่ไปทำการลาดตระเวณ
"เครื่องบินที่ทันสมัยคงไม่บินอยู่ในอากาศเป็นชั่วโมง มันขึ้นไปยิงแป๊ปเดียวก็ตกมาแล้ว เราคงไม่เอาเครื่องบินขับไล่ไอพ่นไปลาดตระเวณเป็นชั่วโมง เรามีเครื่องบินอย่างอื่นไปทดแทน เพียงแต่ไปแสดงศักยภาพให้เขาถอยกลับไป"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การจัดหาอากาศไร้คนขับ ประจำฐานการบินชายฝั่ง ของกองทัพเรือ ว่า เป็นการจัดหาตามความจำเป็น ติดตั้งตามทัพเรือภาคต่างๆ วงเงิน 4,070 ล้านบาท ในส่วนทีโออาร์ไม่ได้กำหนดว่าต้องจัดซื้อจากประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เมื่อตรวจจากคุณสมบัติที่ตรงกัน ก็สามารถเข้ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการผลการทำงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่อยากให้เป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ อาทิเช่น ทั้งเรื่องการรักษาความมั่นคงให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ซึ่งสามารถชุมนุมได้แต่ต้องอยู่ในกรอบกฏหมาย,ไทยสามารถปลดธงแดง ICAO ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.60, ไทยขยับขึ้นเทียร์ 2 แก้ปัญหาค้ามนุษย์สำเร็จ, แก้ไขปัญหาบมจ.การบินไทย (THAI )หลุดพ้นสภาวะล้มละลาย, แก้ปัญหาที่ดิน สามารถจัดสรรที่ดินทำกินให้กับผู้ยากไร้และเกษตรกร และแก้ปัญหาที่ดิน ด้วยนโยบาย One Map แก้ปัญหาแนวเขตที่ดินทับซ้อนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมา ได้เร่งลงทุน เตรียมความพร้อมให้กับประเทศ เชื่อไทยให้เดินหน้า พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยช่วงปี 58-62 มีการลงทุนจริงในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีการขยายตัวการลงทุนภาครัฐถึง 7.9 % ต่อปี มีการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พัฒนาเขตนวัตกรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งเปิดใช้ทางการ พ.ย.65 การวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การพัฒนาระบบอีเพเม้นท์ และพัฒนา 5จี

นอกจากนี้ มีการตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตอีวีของโลก ซึ่งมีผู้ผลิตอีวีจากต่างประเทศสนใจลงทุนในไทยหลายประเทศ มีการพัฒนาเรือเฟอร์รี่ ที่ไร้มลพิษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าจาก 31.8% เป็น 40% ในปี 2579 มีการดึงดูดต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ยกระดับอุตสาหกรรมในระยะยาว และเกิดการใช้จ่าย-การลงทุน ส่วนด้านความสัมพันธ์ ได้มีการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบีย

"ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นก้าวแรกๆของการเดินทางไกลของผม ผมเชื่อในคำกล่าวที่ว่า กาลเวลาพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน สิ่งที่เริ่มดำเนินการไปเป็นส่วนหนึ่งที่ผมภูมิใจทำสำเร็จ ผมรู้ผมทำอะไรอยู่ ฝากให้ทุกท่านเก่งๆมีโอกาสสานต่อไปแล้วกัน ผมรู้ว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ ประเทศไทยยังคงต้องยืนหยัดแบบนี้ ผมจะอยู่ไม่อยู่ ประเทศไทยต้องอยู่ เป็นดินแดนแห่งความเจริญ สงบสันติสุขบนแผ่นที่โลกอีกต่อไป ผมฝากเรื่องเดียว คือ ความร่วมมือในการทำงาน อะไรดีสอนกันแนะกัน จะได้สำเร็จเป็นความภาคภูมิใจของเราทุกคน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ