ก้าวไกล จ่อฟ้องป.ป.ช.เอาผิดบอร์ดกสทช. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบปล่อยควบรวม TRUE-DTAC

ข่าวการเมือง Friday October 21, 2022 13:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับผลการประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) ที่มีมติเสียงข้างมากรับทราบการควบรวมกิจการของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอคเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)

ทั้งนี้ ตนจะยื่นคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป เพราะ กสทช.ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด โดยจะฟ้องตามมาตรา157 ทั้งคณะต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่ากสทช.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากผิดจริง การควบรวมครั้งนี้อาจเป็นโมฆะได้

"กรณีควบรวมกิจการดังกล่าว รัฐบาลสามารถมีบทบาทแทรกแซงเรื่องนี้ได้ แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย จนอดคิดไม่ได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และเห็นว่าหลังจากนี้ จะต้องทบทวนกฎหมายว่าด้วยที่มาของ กสทช. ซึ่งจำเป็นต้องทำให้ กสทช.ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น แก้ไขประกาศต่าง ๆ ที่ออกมาภายหลัง และแก้ไขบทบาทอำนาจของตนเองใหม่ให้สามารถอนุญาตการควบรวมกิจการได้" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ด้าน น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การควบรวมธุรกิจของ 2 บริษัทดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การผูกขาดในด้านสาธารณูปโภค ที่ควรเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของประชาชน ทำให้คู่แข่งขันในตลาดจะเหลือเพียง 2 บริษัทใหญ่ คือ เอไอเอส และทรูกับดีแทคที่ควบรวมกัน ถึงเม้ กสทช. จะมีการกำหนดเงื่อนไขเฉพาะ เพื่อรองรับและคุ้มครองผู้บริโภคว่าต้องพ้น 3 ปีไปก่อนจึงจะสามารถควบรวมได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงในอนาคตที่จะทำให้ทิศทางราคาการใช้บริการโทรคมนาคมของประชาชนถูกกำหนดโดยเจ้าตลาดเพียง 2 บริษัทเท่านั้น

น.ส.ธิดารัตน์ เสนอว่ารัฐบาลควรพิจารณาสนับสนุนรัฐวิสาหกิจของรัฐเองมากขึ้น เช่น บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) (กสท. และ TOT เดิม) โดยให้ NT เข้ามาถ่วงดุลในตลาดโทรคมนาคมเพิ่มเติม โดยเสนอให้มีราคาที่ต่ำกว่าบริษัทเอกชนทั้ง 2 บริษัท เพื่อดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการกับรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น และเป็นการช่วยดึงราคาในตลาดไม่ให้มีค่าบริการที่สูงเกินไป รวมถึงการันตีว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคได้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพ

"การที่ กสทช. อนุญาติให้เกิดการควบรวมกิจการของทุนขนาดใหญ่ 2 บริษัทในกิจการโทรคมนาคมนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนให้เกิดทุนผูกขาดขึ้นในประเทศ แต่ยังสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยมที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชนได้ เพราะไม่ได้มองถึงปัญหาของประชาชนคนตัวเล็ก ที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย และค่าครองชีพในสาธารณูปโภค รัฐควรคำนึงถึงปัญหาการผูกขาดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในกิจการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชน" โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ