สุชาติ อำลาลุงป้อม ขอตามไปช่วยงานบิ๊กตู่ ปัดขัดแย้งผู้กองธรรมนัส

ข่าวการเมือง Tuesday November 29, 2022 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ได้เข้าพบเพื่อกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้ว พร้อมทั้งถือโอกาสลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเป็นที่เรียบร้อย

"ตอนแรกไม่ได้คิดจะออกมาพูด แต่เมื่อเป็นข่าว ก็อยากให้ฟังจากปากมากกว่า ซึ่งสื่อก็เห็นว่าผมมีความชัดเจนในหลายเรื่อง ถ้าจะอยู่เพื่อกั๊กตำแหน่งที่สำคัญในพรรคพลังประชารัฐ มันไม่ใช่ตัวผม เพราะยังมีผู้ใหญ่ที่มีความสามารถและสำคัญในพรรคที่เหมาะสมจะมาทำหน้าที่ ผอ.พรรค ผมจึงถอยออกมาเพื่อไม่ขวางให้พรรคเดินหน้าเติบโตไปได้ ผมจึงต้องแสดงจุดยืนด้วยการไปกราบลา พล.อ.ประวิตร และลาออกจาก กก.บห.พรรค" นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งตนยังให้ความเคารพรักอย่างที่สุดอยู่แล้ว แต่ทางการเมืองต้องมีความชัดเจนและจุดยืนของตน ซึ่งแสดงไปแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนต้องออกมาทำภารกิจที่คิดในใจว่าจะต้องทำอะไร

"พล.อ.ประวิตร ท่านก็รับทราบและเข้าใจผม ลูบหัวผม เข้าใจสิ่งที่ผมปฏิบัติและมีความชัดเจน เป็นคนที่ตรงๆ พูดจริงพูดตรง ถึงผมจะไม่ได้อยู่เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ แต่ก็อยากให้เกิดความชัดเจนมากกว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็นตัวขวาง หรือตัวถ่วงของใคร" นายสุชาติ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีข่าว ส.ส.บางส่วนจะย้ายตามตนไปด้วยนั้น พล.อ.ประวิตรไม่ได้พูดถึง ซึ่งขณะนี้ ส.ส.ยังไม่ได้ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แต่ในทางการเมือง เราแค่มองอนาคตทางการเมืองในพื้นที่ของตัวเอง ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าคิดว่าอยู่ในพื้นที่ไหนแล้ว สามารถทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองได้ หรือจะสามารถเข้ามาเป็น ส.ส.ได้ในสมัยหน้า ก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองก่อน

ทั้งนี้ นายสุชาติ ปฏิเสธที่จะระบุว่าจะย้ายไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพราะขณะนี้ยังพูดเรื่องอนาคตการเมืองไม่ได้ บางคนวันนี้บอกอยู่ตรงนี้ อีกไม่กี่วันยังไปตรงอื่นได้ แต่ยืนยันว่าตนไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมปฏิเสธว่าการลาออกของตนไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะย้ายกลับมาอยู่พรรค พปชร.

นายสุชาติ ชี้แจงถึงคำว่า "ตัวถ่วง" ไม่ได้หมายความว่ามีความขัดแย้งกับใคร แต่เป็นอย่างที่ตนโพสต์ว่า ถ้ามีอะไรขึ้นมา หรือที่เคยพูดแล้วสื่อเสนอ ตนก็ต้องแสดงจุดยืนในการไปกับนายกรัฐมนตรี ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นการที่ตนพูดไว้แล้ว ถ้าตนยังอยู่ในพรรค ขณะที่พรรคกำลังเติบโต หรือทำให้พรรคไม่สบายใจก็ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งการโพสต์ทำให้มีการพูดกันว่าทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ตนคิดก่อนคนอื่นและไม่สนใจ ใครจะพูดอะไรก็พูดไป แต่ตนต้องไปพูดและเล่าความรู้สึกให้ พล.อ.ประวิตร รับทราบเท่านั้น ขอให้ พล.อ.ประวิตร เข้าใจตนคนเดียวก็พอ และที่ผ่านมาตนก็ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

ส่วนความชัดเจนที่จะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ต้องรอความชัดเจนของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น บางอย่างพูดตอนนี้ไม่ได้เพราะตัดขัดเรื่องข้อกฎหมาย แต่ตนต้องแสดงความรับผิดชอบและจุดยืนของตน เพื่อให้ผู้ใหญ่ในพรรค รวมถึงเพื่อน ส.ส.สบายใจ และในพรรคก็มีคนที่พร้อมทำหน้าที่ เมื่อเราไม่พร้อมก็ต้องถอย เรื่องความชัดเจนได้บอกในส่วนของตนเองได้ตั้งโพสต์แล้ว แต่ส่วนของผู้ใหญ่นั้น ไม่สามารถตอบแทนได้

นายสุชาติ เลี่ยงที่จะตอบว่า ใจไม่ได้อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือไม่ แต่บอกว่าไม่ใช่เรื่องใจ อยู่ที่ว่าตนจะไปทำอะไรมากกว่า

"จะบอกว่าใจไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ใช่ เพราะยังรักลุงป้อม ซึ่งภารกิจที่จะไปทำ มีความสำคัญในการทำงาน เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองบางอย่าง จึงคิดว่าไปอยู่ตรงไหน จะทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด" นายสุชาติ กล่าว

ส่วนการแยกทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เกิดภาพชัดเจน เมื่อถึงวันนั้นจะเห็นอะไรหลายอย่าง วันนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะทั้ง 2 คนก็ยังรักกัน เหมือนที่ตนก็ยังรักลุงป้อมเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในทางการเมืองต้องเลือกในสิ่งที่เราคิดว่าได้ประโยชน์ และทำประโยชน์เพื่อชาติได้ พร้อมย้ำจุดยืนของตน เป็นจุดยืนเดียวกับนายกรัฐมนตรี ต้องไปช่วยนายกรัฐมนตรี แม้นายกรัฐมนตรีจะไปต่อไม่ได้ ตนก็ยังจะอยู่กับนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก

"การแยกทางการเมือง เป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมาก เปรียบเหมือนความรักต่อพ่อ-แม่ ที่อยู่ด้วยกัน แต่มีความจำเป็นที่จะต้องแยกกันอยู่คนละจังหวัด คนละประเทศ จะเลือกอย่างไร เช่น พ่อแม่ต้องไปทำธุรกิจจะทำอย่างไร แต่ยืนยันไม่ใช่บ้านแตก เพราะยังรักกันอยู่ แต่มีภารกิจบางอย่าง ซึ่งพ่อแม่ก็ยังรักกัน แต่คนเป็นลูก ก็ต้องคิดว่าจะต้องทำอย่างไร" นายสุชาติ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าเป็นการดำเนินยุทธวิธีแยกกันตีนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ก็มองได้หลายมุม เพราะความรักยังมีอยู่ทั้งหมด ไม่ได้ทะเลาะกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ