นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า การแก้ไขปัญหาปากท้องเศรษฐกิจต้องแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน แต่การกู้เงินมาแจกเป็นการสอนให้ประชาชนมีพฤติกรรมนั่งรอรับเงินจากรัฐบาล สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ใช้เงินขนาดนี้ ใช้เงินแค่ 30,000 ล้านบาท แต่นี่ 5 แสนล้านบาทแล้วต้องให้เงินคนอายุ 16 ปีขึ้นไป
"ฝากถามนายกรัฐมนตรี เงินที่จะกู้ กู้แล้วเอาเงินที่ไหนมาคืน ภาระหนี้นี้ตกถึงลูกหลานหรือไม่ ขณะนี้หนี้รวมที่เรามี 11 ล้านล้านบาท จากทั้งหมด 17 ล้านล้านบาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพดานหนี้ 61% ถ้ากู้มาอีก 5 แสนล้านบาท ขึ้นเป็น 64% เพดานเราอยู่ที่ 70% ผมผิดหวังนายกฯ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่พอบริหารประเทศคิดให้ตัวเองดูดีหล่อ แต่เอาเงินกู้มาแจกพี่น้องประชาชน ผมว่าผิดเรื่องนี้" นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวว่า วันนี้ประเทศเราไม่ได้เกิดวิกฤตก็ไม่จำเป็นต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาทำเรื่องนี้ ตอนนี้ พ.ร.บ.เงินกู้ก็มีคนไปยื่นร้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินถึง 5 คน เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และ พ.ร.บ.วินัยงานเงินการคลังข้อที่ 53
"เรื่องนี้ถ้านายกรัฐมนตรียังดื้อดันที่จะนำเสนอเรื่องนี้เข้าสภา แล้วโยนบาปให้สภาในวันที่ไม่ผ่านร่างให้ ผมว่านายกไร้วุฒิภาวะ ไม่มีวุฒิภาวะในการทำงาน ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดวันที่ประกาศหาเสียงบอกว่า จะไม่กู้เงิน จะหารายได้มาแจกพี่น้องประชาชน วันนี้ผ่านเวลาไปแค่ 70 วัน นายกฯ ตระบัดสัตย์ กลืนน้ำลาย ถมน้ำลายใส่หน้าตัวเองแล้วจะบอกว่ากู้เงิน 500,000 ล้านบาท นี่ผมไม่เห็นด้วย...ผมเป็นคนหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรราษฎรที่จะไม่ให้ผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท" นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ ยังเรียกร้องไปถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนให้คัดค้าน พ.ร.บ.กู้เงินฉบับนี้ เพราะเป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับประเทศ เราไม่ขัดขวางเรื่องประชาชนจะได้เงิน แต่วิธีการที่จะได้เงิน นายกฯ ต้องทำตามคำพูดคือไม่กู้เงิน และหาเงินมาจ่ายให้กับประชาชน งบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาทของปี 67 นายกฯ ไม่สามารถแทรกเงินแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้