ชี้ก้าวไกลหวังดิสเครดิต ชงตั้ง กมธ.ศึกษาอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

ข่าวการเมือง Sunday March 10, 2024 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ชี้ก้าวไกลหวังดิสเครดิต ชงตั้ง กมธ.ศึกษาอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เตรียมเสนอญัตติด่วนต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหลักการสำคัญในระบบประชาธิปไตยได้แบ่งแยกอำนาจออกจากกันอย่างชัดเจนคือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ โดยแต่ละฝ่ายมีหน้าที่ตามครรลองในระบบประชาธิปไตย ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจในทางตุลาการย่อมถือว่าเป็นหนึ่งในสามอำนาจอำนาจหลัก แต่การออกมาให้สัมภาษ์ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. เป็นความเข้าใจในหลักการผิดไป ซึ่งจะทำให้การตั้งต้นวิพากษ์วิจารณ์ผิดไปจากหลักความถูกต้อง

อำนาจตุลาการในการพิจารณาพิพากษาคดีมีรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดและมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาคดี กรอบอำนาจหน้าที่มีกำหนดไว้ค่อนข้างชัดว่ามีคดีประเภทไหนบ้างที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัย และที่สำคัญศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถหยิบยกข้อเท็จจริงใดขึ้นมาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยเองได้โดยลำพัง หากไม่มีผู้ยื่นคำร้องเพื่อให้มีการตีความวินิจฉัย ซึ่งทุกคดีที่ผ่านมาถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ก็มีหลายคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับไว้พิจารณา คดีไหนที่อยู่ในอำนาจก็มีการพิจารณาวินิจฉัย และเมื่อมีการพิจารณาวินิจฉัยแล้วย่อมมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้คดี แต่ทั้งหมดคือกระบวนการยุติธรรมที่ทุกฝ่ายต้องน้อมรับ

"หลายคดีที่พรรคก้าวไกลชนะ และที่แพ้คดีก็มี พอพรรคก้าวไกลชนะก็พึงพอใจ แต่เมื่อมีคดีที่แพ้ก็จะมีกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญ" นายราเมศ กล่าว

โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าได้ศึกษาคำวินิจฉัยอย่างละเอียดแล้วจะเห็นว่า เหตุอันเป็นที่มาที่นำไปสู่คำวินิจฉัยเกิดขึ้นมาจากการกระทำฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเองทั้งสิ้น ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถไปก้าวก่ายแทรกแซง โดยสั่งให้ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติกระทำการสิ่งใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติโดยเฉพาะ และที่สำคัญเมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนดกฎเกณฑ์กติกาไว้ หากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไม่นำพาต่อกระบวนการที่กฎหมายกำหนดก็เป็นความชอบธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีความสำคัญ เป็นองค์กรตุลาการที่ทำหน้าที่ให้หลักประกันความเชื่อมั่นแก่องค์กรทุกฝ่ายรวมถึงประชาชนว่า เมื่อใดก็ตามที่บทกฎหมายและการทำหน้าที่ รวมถึงการใช้อำนาจขององค์กรใดๆ ที่ก่อให้เกิด ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ย่อมถูกหยิบยกขึ้นมาโต้แย้งและหาข้อยุติในกระบวนการทางตุลาการได้เพื่อความเป็นธรรม โดยการยื่นคำร้องเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัย

"เรื่องนี้ผมเห็นต่างจากพรรคก้าวไกล และคิดได้อย่างเท่าทันว่า ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ก็เริ่มต้นทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญก่อน และหากผลคดีไม่เป็นคุณต่อพรรคก้าวไกลก็จะใช้การกระบวนการทั้งหมดเป็นเงื่อนไขว่าพรรคก้าวไกลเป็นผู้ถูกกระทำ นี้คือความเลวร้ายในหลักคิดทางการเมืองที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายในอนาคต" นายราเมศ กล่าว

การเสนอญัตติด่วนขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจนิติบัญญัติ เชื่อว่ามีการตั้งธงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณา ที่กล่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ ขอให้ระวังฝ่ายนิติบัญญัติจะไปก้าวล่วงศาลรัฐธรรมนูญเสียเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ