(เพิ่มเติม) "จตุพร"เชือดนายกฯ ปล่อยคนทำไทยเสียดินแดนนั่งเป็นรมต.-ลดโทษยึดสนามบิน

ข่าวการเมือง Thursday March 19, 2009 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าที่มาของรัฐบาลชุดนี้มาด้วยวิธีพิเศษที่ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย และยังแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ ให้เป็น รมว.ต่างประเทศ ทั้งๆ ที่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินแห่งชาติ

"แค่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ความผิดก็เป็นที่ประจักษ์ แม้ว่าจะยังไม่มีการดำเนินคดีส่งศาล แต่นายกษิต เป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีผู้ลงทุนร่วมในการโค่นล้มรัฐบาลชุดเดิม คือกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เลยได้นายกษิต มาเป็นรัฐมนตรี การจะตอบแทนภายใต้การสมคบกันของท่าน ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่ไปตั้งคนที่มีปัญหากับกัมพูชา" นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร อภิปรายต่อว่า หลังจากที่นายกษิต เข้ารับตำแหน่งแล้ว ยังพบว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเสียดินแดนจากการที่กัมพูชาตัดถนนเป็นระยะทาง 250 เมตร เข้ามาในเขตพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ได้ แม้กองกำลังสุรนารีที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนในพื้นที่ดังกล่าวจะทำหนังสือมาถึงกระทรวงการต่างประเทศถึง 8 ฉบับ เพื่อให้รัฐบาลไทยทำหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชาจากการเข้ามาสร้างถนนในพื้นที่ทับซ้อน

แต่นายกษิต กลับไม่สั่งการใดๆ ทั้งที่ก่อนหน้าจะมาเป็นรัฐมนตรีได้พูดเป็นหนักแน่นว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นของประเทศไทยแน่นอนโดยไม่ต้องพิสูจน์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำเพื่อแลกกับการให้กัมพูชาเข้ามาร่วมประชุมอาเซียนซัมมิทที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปลายเดือน ก.พ.52

"นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รักษาหน้าตาของประเทศ จะต้องเชิญสมเด็จฮุนเซนมาประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนให้ได้ ชายแดนร้อนเป็นไฟแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่รู้สึกรู้สา...ท่านนั่งเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ได้อย่างไร 2 เดือนครึ่งเสียดินแดนไปเดือนละร้อยเมตร กองกำลังสุรนารีที่ดูแลพื้นที่นี้เขาเจ็บปวดกับการทำหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้ เพราะไม่ได้ช่วยให้เขาทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย รบก็ไม่ได้ ถอยอย่างเดียว"ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าว

นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลแก้กฎหมายและบทลงโทษในการยึดท่าอากาศยานแห่งชาติจากโทษประหารชีวิต เหลือเพียงโทษปรับ ซึ่งถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคยบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ

"ท่านกำลังออก พ.ร.บ.ลงโทษคนยึดสุวรรณภูมิจากโทษประหารชีวิต เหลือปรับ 500-10,000 บาท นอกจากจะไม่ดำเนินคดี แต่กลับปูนบำเหน็จกัน พวกนี้ก็เริงร่ากันจากโทษประหารเหลือแค่ปรับ ท่านนายกฯ เอาอะไรคิด" นายจตุพร กล่าว

นอกจากนี้นายจตุพร ยังอภิปรายถึงข้อกล่าวหาการหนีเกณฑ์ทหารและการปลอมแปลงใบ สด.9 โดยระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารตั้งแต่ปี 30-36 และอาจได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่บางคนให้ใช้ช่องทางนี้ในการเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย จปร.แทน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ใบสด.9 มาแสดง แต่นายอภิสิทธิ์ ได้ไปขอให้มีการออกเอกสารดังกล่าวใหม่ในภายหลัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่เคยมี

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าไม่เคยหลบหนีการเกณฑ์ทหารตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา เพราะก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษได้ทำเรื่องขอผ่อนผันไว้และได้รับการผ่อนผันเรียบร้อยแล้ว จากนั้นในกลางปี 30 ได้เข้ากลับมารับราชการทหารด้วยการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ขณะนั้นยังไม่มียศทหารจึงจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรก่อน พร้อมกับนำหลักฐานรูปถ่ายพร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นในช่วงการฝึกอบรมมาแสดงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อฝึกเสร็จในปี 31 จึงได้ขอพระราชทานยศ

แต่ปรากฎว่าหลักฐานที่จะต้องใช้ในการขอพระราชทานยศ คือ ใบสด.9 ได้หายไป จึงได้ไปขอออกใบแทน และในที่สุดก็ได้รับพระราชทานยศร้อยตรีในปลายปี 31 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ใบสด.9 ที่มีอยู่นี้ไม่ใช่การปลอมแปลงเอกสารราชการ แต่เป็นใบแทนที่ทางราชการออกให้ใหม่จากที่ได้ทำใบ สด.9 ฉบับจริงหายไป ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากต้นขั้วของเอกสารฉบับจริงที่ยังมีทางราชการยังมีอยู่



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ