นายเหอ หยาเฟย รมช.ต่างประเทศของจีน ยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะคลี่คลายคดีการจับกุมตัวผู้บริหารของบริษัท ริโอทินโต ของออสเตรเลีย ให้เร็วที่สุด แต่เรียกร้องให้ออสเตรเลียเคารพอธิปไตยด้านการพิจารณาคดีของจีนอย่างเหมาะสม
"ออสเตรเลียควรมองว่าเรื่องนี้เป็นคดีส่วนบุคคลและต้องดำเนินการอย่างเหมาะสม คดีของริโอ ทินโต เราจะดำเนินการตามกฎหมายของจีน ซึ่งจะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียอย่างแน่นอน" นายเหอกล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมที่กรุงวอชิงตัน
จีนได้จับกุมตัวพนักงานของบริษัท ริโอ ทินโต 4 ราย รวมถึงนายหู เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งข้อหาว่าขโมยความลับของราชการ ขณะที่สื่อออสเตรเลียรายงานว่า ริโอ ทินโต ได้ยกเลิกแผนการลงทุนมูลค่า 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์ในบริษัท อลูมินัม คอร์ป ออฟ ไชน่า และยังทำให้การเจรจาเรื่องสินแร่เหล็กกับบริษัทผู้ผลิตเหล็กต้องหยุดชะงักไป การกักตัวพนักงานของริโอ ทินโต นี้ มีการตั้งข้อสังเกตในกลุ่มเทรดเดอร์ว่า เป็นเรื่องของการตอบโต้
นายสตีเฟ่น สมิธ รมว.ต่างประเทศออสเตรเลียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เขาคาดหวังว่าจะเจรจากับรมว.ต่างประเทศของจีนในสัปดาห์นี้ กรณีที่ผู้บริหารของบริษัท ริโอ ทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่ของออสเตรเลีย ถูกทางการจีนจับตัวไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทเหล็กของจีนและริโอ ทินโต กำลังเจรจาเรื่องราคาสินแร่เหล็ก
นับตั้งแต่นายหูถูกจับตัวไป บรรดานักการเมืองฝ่ายค้านของออสเตรเลียก็กดดันให้นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ยื่นมือเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของ Essential Research บ่งชี้ว่า ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลไม่ควรแทรกแซงคดีความดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของจีนและออสเตรเลีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน