ไต้หวันแต่งตั้งประธานบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศดำรงตำแหน่งรมว.เศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 10, 2009 11:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อู๋ เติน-ยี ว่าที่นายกรัฐมนตรีไต้หวัน เปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลิว จ้าว-ฉวน จะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากที่ได้ประกาศลาออกเมื่อวันจันทร์ พร้อมเป็นแกนนำรัฐมนตรีลาออกทั้งคณะ เพื่อเปิดทางให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกรณีจัดการรับมือกับภัยพิบัติไต้ฝุ่นมรกตล่าช้าจนส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

โดยนายอู๋ได้แต่งตั้งนาย จื้อ เหยิน-เชียง ประธาน ซีอีซี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่สุดของไต้หวัน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจคนใหม่ ขณะที่พรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกำลังพยายามหาทางกอบกู้ชื่อเสียงและความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อพรรคจากกรณีภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี

นายจื้อ จะเข้ามารับช่วงต่อจากนายหยิน ฉี-หมิง ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไต้หวันที่เข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากขยายตัวติดลบ 7.54% ในไตรมาส 2 และหดตัวถึง 10.13% ในไตรมาสแรก โดยนายจื้อวัย 59 ปี เป็นอดีตรมช.เศรษฐกิจ และยังเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมในสังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน และศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกสาขาเคมีจากเอ็มไอทีในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ คะแนนนิยมของประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว ทรุดฮวบลงหลังเกิดเหตุไต้ฝุ่นมรกตพัดเข้าถล่มไต้หวันเมื่อวันที่ 7-9 ส.ค. ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 คน โดยก่อนเกิดภัยพิบัตินั้น นายหม่าและรัฐบาลเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนด้วยนโยบายเปิดประตูรับการลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของไต้หวัน

หลิว ปี-หรง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซูโจว กล่าวว่า ประชาชนรู้สึกโกรธเคืองและอัดอั้นตันใจต่อการรับมือไต้ฝุ่นของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ประธานาธิบดีหม่าตื่นตระหนกไม่น้อยและซวนเซไปพักหนึ่งขณะที่เขาพยายามควบคุมความเสียหาย อย่างไรก็ดี ด้วยการปรับครม. ประกอบกับการที่อารมณ์คุกรุ่นของประชาชนเริ่มสงบลงแล้ว ประธานาธิบดีหม่าจะสามารถกลับมาให้ความสำคัญไปที่ประเด็นเศรษฐกิจอีกครั้ง

โดยนายหม่ากำลังเดินหน้าลงนามในข้อตกลงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Framework Agreement) กับจีน หลังจากที่ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับที่เกี่ยวข้องการอุตสาหกรรมการเงินมาแล้ว

ทั้งนี้ ดัชนี Taiex ตลาดหุ้นไต้หวัน ไต่ขึ้นถึง 3.5% แตะ 7,507.49 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2551 โดย ณ เวลา 10.54 น.ในไทเป ดัชนีบวกขึ้น 1% ส่วนเงินดอลลาร์ไต้หวันไต่ขึ้น 0.3% แตะ 32.648 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเวลา 9.46 น.

นายอู๋ วัย 61 ปี กล่าวว่า เขาจะยังคงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายหม่าต่อไป และให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ