เพื่อไทยลงมติขับ"ปรพล-จุมพฎ"ออกจากพรรคโทษฐานฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น

ข่าวการเมือง Monday June 7, 2010 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยวันนี้มีมติให้ขับ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ที่ยกมือสวนมติพรรค โดยออกเสียงไว้วางใจรัฐมนตรีฝ่ายรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเมื่อสัปดาห์ก่อน

โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ส.ส.ทั้ง 2 ทำผิดระเบียบข้อบังคับพรรคการเมืองอย่างร้ายแรง กรณีขาดการประชุมพรรคเป็นเวลานาน ไม่เข้าร่วมในกิจกรรมของพรรค ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น รวมไปถึงการไปร่วมทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่นอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ รวมถึงกฏหมายพรรคการเมืองที่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมืองเดียว

"การกระทำของ ร.ต.ปรพล และนายจุมพฏ มีชื่ออยู่พรรคเพื่อไทยตามหลักนิตินัย แต่พฤติกรรมและการปฎิบัติตัวกับอยู่อีกพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างชัดเจน" นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท.กล่าว

โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคได้ทำหนังสือขอให้ ร.ต.ปรพล และนายจุมพฏ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ชี้แจงใดๆ กลับเพิกเฉย คณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีมติขับ ส.ส.ทั้งสองออกจากพรรค

สำหรับขั้นตอนต่อไปกรณีที่สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาเป็น ส.ส.และต้องถูกกำหนดโทษให้พ้นจากการเป็นสมาชิกให้เสนอสำนวนพร้อมความเห็นต่อที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรค เพื่อให้ที่ประชุมร่วมพิจารณา หากมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. โดยการลงมติให้ลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับของพรรคข้อ 23

โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังมีมติให้นำเรื่องนายสมบูรณ์ วันชัยธนวงศ์ ส.ส.สัดส่วนที่งดออกเสียงในญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน ที่โหวตสวนเช่นเดียวกับ ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 2 คน กระทำขัดต่อข้อบังคับพรรคอย่างร้ายแรง เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรค ได้สอบข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อกล่าวหาของ ส.ส.ทั้งสองต่อไป โดยให้นายสมบูรณ์และนายนิคมมาชี้แจงต่อคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรคต่อไป

อนึ่ง ข้อบังคับพรรคเพื่อไทยข้อที่ 23 ระบุไว้ว่า สมาชิกผู้ใดกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณของพรรค ต้องได้รับโทษตามความร้ายแรงของการกระทำผิดวินัยและละเมิดจรรยาบรรณ ดังนี้ 1.ตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกตามข้อบังคับ 4.ให้พ้นจากสมาชิกภาพ

ในกรณีสมาชิกที่ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งเป็น ส.ส.และการกระทำนั้นอาจมีผลให้สมาชิกผู้นั้นพ้นจากความเป็นสมาชิก ให้คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณส่งผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะให้ที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.ที่สังกัดพรรคพิจารณา โดยมติของที่ประชุมร่วมฯ ให้สมาชิกผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากความเป็นสมาชิกต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคทั้งหมด ด้วยการลงมติให้ลงคะแนนลับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ