"เทพไท"ระบุ ส.ส.มีชื่อทำธุรกรรมเอี่ยวแดงแจ้งหลักฐานหากบริสุทธิ์ใจ

ข่าวการเมือง Thursday June 17, 2010 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการอายัดการทำธุรกรรมการเงิน 86 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เมื่อฝ่ายความมั่นคงได้ออกมาพูดเรื่องนี้ก็ได้รับการสบประมาทจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้นว่าเป็นการพูดเท็จ เป็นการยกเมฆ พูดจาไม่มีข้อมูล แต่วันนี้ได้ปรากฎชัดเจนแล้วว่า ทุกอย่างที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้เป็นความจริงทั้งสิ้น เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีเงื่อนไขที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริงได้ละเอียด เหมือนกับกรณีที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดพิสูจน์ออกมาแล้วมีการเผยแพร่ออกมาว่ามี 86 บัญชี และเมื่อดูรายละเอียดของบัญชีก็พบว่า มีแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ 5 กลุ่ม แต่ที่น่าสนใจก็คือกลุ่มที่เป็นนักการเมือง ส.ส.ซึ่งบางคนต้องยอมรับว่ามีสถานะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีกระแสเงินหมุนเวียน นับกว่า 10 ล้านบาท เพราะอยู่ในฐานะที่เป็น ส.ส.ธรรมดา ซึ่งหากดูจากประวัติและภูมิหลังอาจจะเข้าใจว่ามีการกลั่นแกล้งบุคคลเหล่านี้ แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่ากระแสเงินไหลเวียนผ่านบุคคลเหล่านี้จริง ในรอบบัญชีเป็นจำนวน 20-30 ล้าน และดูพฤติกรรมการเบิกจ่ายจะมีการเบิกทันที หรือภายใน 3 วันบ้าง และไม่สามารถอธิบายได้ว่าที่มาของเงินเหล่านั้นมาจากไหน

"เงินที่เข้าบัญชี ส.ส.เหล่านี้ที่ไม่มีประวัติเป็นนักธุรกิจ หรือทำธุรกิจมาก่อน เข้าใจว่าเป็นการโอนเงิน เพื่อไปจัดการเรื่องม็อบ การบริหารจัดการการชุมนุม การขนคนเสื้อแดงมาชุมนุม ทำให้เห็นว่ามีการเบิกถอนเงินในเวลารวดเร็ว และเหลือเงินค้างในบัญชีบ้างในจำนวนหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นค่าหัวคิวที่เก็บไว้ในบัญชี" นายเทพไท กล่าว

สำหรับยอดเงินที่ปรากฎตามข่าวจำนวนสูงถึง 1 แสนล้านนั้น ส่วนตัวเข้าใจว่าเงินที่ใช้ในการชุมนุมอาจจะไม่ถึงแสนล้านตามกระแสเงินที่ปรากฎตามข่าว ตนเองจึงอยากให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลที่เชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแสดงหลักฐานให้ชัดเจน เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือผู้รับผิดชอบจะยอมรับได้ว่าหากเงินมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาแก้ต่างว่า เป็นเรื่องการเบิกเงินเพื่อไปใช้หนี้ หรือไปทำธุรกิจ ตนเองเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่จะนำพยานหลักฐาน หรือใบเสร็จในการชำระหนี้ของบุคคลเหล่านี้มายืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ แต่บางเรื่องที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน และไม่สามารถอธิบายต่อสังคมได้ได้จริงๆ เช่น ในรายละเอียดพบว่าช่วงวันที่ 1 -17 พ.ค. เป็นช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช.อย่างร้อนแรง ซึ่งมีกระแสเงินเคลื่อนไหวในบัญชีสูงถึง 7 พันล้าน จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า มีเหตุผลใดจึงต้องมีการชำระหนี้หรือต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากในห้วงเวลาประจวบเหมาะกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตรงนี้ส่วนตัวคิดว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องและถูกกล่าวหาจะต้องไปชี้แจง และตนเองเชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ