เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากสหรัฐและยุโรปพากันประท้วงด้วยการเดินออกจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 65 ในขณะที่นายมาห์หมุด อมาดิเนจ๊าด ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวปราศรัยในที่ประชุม โดยผู้นำอิหร่านกล่าวว่า เหตุการณ์วินาศกรรมที่เกิดขึ้นในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544 เป็นการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐเพื่อที่จะปกป้องอิสราเอล
เว็บไซต์ของสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของอมาดิเนจ๊าดในวันแรกของการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นซึ่งจัดขึ้นที่นิวยอร์ก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตัวแทนของสหรัฐ และตัวแทนจาก 32 ชาติ รวมถึงประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และคอสตาริก้า แสดงความไม่พอใจและเดินออกจากที่ประชุม
อย่างไรก็ตาม ผู้นำอิหร่านไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านต่อการประท้วงของเจ้าหน้าที่ตัวแทนเหล่านั้น แต่กลับเดินหน้าโจมตีอิสราเอลและลัทธิไซออนนิสต์ พร้อมกับกล่าวว่า อิหร่านจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยเรื่องการก่อการร้ายในปีหน้า
ในระหว่างการแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในครั้งนี้ ผู้นำอิหร่านปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านกำลังเพิ่มสมรรถนะด้านนิวเคลียร์ และยังระบุว่า บางประเทศที่เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "มีพลังงานนิวเคลียร์ที่มีสมรรถนะสูงพอที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์"